Pages

Long Live The king

Long Live The king

March 23, 2015

ถ้าเรามีหนังสือธรรมะ หรือรูปพระ แล้วเราอยากจะทิ้งเสีย จะทำอย่างไรไม่ให้บาป?

ถ้าเรามีหนังสือธรรมะ หรือรูปพระ แล้วเราอยากจะทิ้งเสีย จะทำอย่างไรไม่ให้บาป?

ดังตฤณ: อันนี้ผมก็เคยได้รับคำแนะนำมานะครับว่า ให้มองว่าการที่เราจะรู้สึกว่าเป็นหนังสือธรรมะ หรือว่าเป็นรูปภาพที่เป็นมงคล เราไปทำลายแล้วจะบาปอะไรต่างๆเนี่ย มันเป็นเพราะว่าจิตไปยึดว่านั่นเป็นของสูง นั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายในทางกุศล เอาไปทำลายก็เท่ากับทำลายกุศล ซึ่งสิ่งตรงกันข้ามกับกุศลก็คืออกุศลนั่นเอง สิ่งตรงกันข้ามกับบุญก็คือบาปนั่นเองนะฮะ
วิธีนึงที่จะทำให้สบายใจถ้าหากจำเป็นที่จะต้องทิ้ง หรือว่าทำลายหนังสือ ซีดี หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ที่มีรูปมลคลอยู่ ก็คือทำให้รูปมงคลนั้นหายไปนะครับ มันมีคำแนะนำไปต่างๆนาๆ ซึ่งในช่วงแรกๆอาจจะไม่สบายใจหรอกที่จะทำแบบนั้น อาจจะต้องใช้เครื่องตัดกระดาษที่มันมีเครื่องทำลายเอกสารอะไรแบบนี้ ขอให้เราคิดว่าเราไม่ได้ทำลายธรรมะ แต่ให้คิดว่าเราทำให้รูปนิมิตหรือว่าสิ่งที่ใจไปยึดว่าเป็นมงคล เป็นมหากุศลเนี่ยนะฮะ แปรรูปไป เหลือแต่กระดาษเปล่าๆ เหลือแต่ความเป็นธาตุดิน ที่ดั้งเดิมเนี่ยกระดาษไม่มีความเป็นมงคลหรือว่าเป็นอัปมงคลอะไรทั้งสิ้นแหละ มันเป็นกลางๆมันเป็นธาตุที่แข็ง มันเป็นสิ่งที่เราจับต้องได้ แล้วรู้ว่านั่นแหละ มันเป็นกระดาษเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากว่าเมื่อไหร่มีรูปนิมิตไปปรากฏอยู่ในกระดาษแล้วก็ยึดว่านั่นเป็นของสูง จิตที่ยึดว่านั่นเป็นของสูงแล้วเคารพสักการะนั่นดีเป็นกุศล เกิดกุศลจิตขึ้นมา เกิดความสว่างขึ้นมา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราจำเป็นที่จะต้องทำให้หายไป เราไม่สามารถที่จะเก็บไว้ ไม่มีที่เก็บหรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ บางคนแหละ คืออันนี้ก็เข้าใจนะฮะ พอรู้สึกว่าหนังสือที่มีอยู่เป็นสัจธรรมปฏิรูป เป็นของปลอม เป็นของไม่จริง เป็นของไม่ดี เป็นสิ่งที่จะพาลงเหวนะฮะ แล้วก็เราไม่อยากจะไปบริจาคต่อกับใคร แต่ว่าบังเอิญที่ปกหรือว่าข้างในหนังสือเนี่ยมีรูปพระสวยๆหรือว่ามีบุคคลที่น่าเคารพศรัทธาแปะอยู่ ก็จะเกิดความกระอักกระอ่วนใจ เก็บไว้ก็ไม่ได้ ทำลายก็ไม่รู้สึกสบายใจ เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมา ทางที่ดีที่สุดก็อาจจะใช้เครื่องทำลายเอกสารนะครับ เพราะว่าเครื่องทำลายเอกสารนี่มันมีหน้าที่ของมันชัดเจน เราหย่อนลงไปเนี่ยมันก็กลายเป็นกระดาษ คืนสภาพสู่ความเป็นธาตุดินนะฮะ นิมิตหายไป เราก็ไม่ต้องกังวลว่าเราทำบาปอะไรรึเปล่านะครับ แต่ถ้าหากว่าไม่มีเครื่องทำลายเอกสาร ก็อาจจะใช้ ที่มีคนแนะนำไว้นะฮะ ก็อาจจะใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นๆ อย่าฉีก อย่าฉีกเอง เพราะฉีกเองบางทีต้องใช้กำลังใจในการทำลาย เหมือนลักษณะที่เราจะฉีกจดหมายคนรัก หรือว่าจะทำลายด้วยอาการที่มันมีโทสะอะไรแบบนั้น จะไปพ้องกันจะไปแมทซ์กันกับอาการที่มันไม่ดี แล้วจะทำให้เกิดความกังวลไป ทางที่ดีคือใช้กรรไกรตัดอย่างประณีตนะฮะ แล้วก็มีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลา มีความรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่านี่เราไม่ได้กำลังทำลายธรรมะ แต่ว่าเรากำลังทำให้กระดาษมันหมดสภาพความเป็นสิ่งวัตถุมงคล หรือว่าที่ประทับของนิมิตมงคลนะครับ ให้ตั้งจิตไว้อย่างนั้นแล้วทำลายทิ้งก็จะไม่มีอะไร ไม่ได้มีอะไรเป็นบาปเป็นอกุศลนะครับ บางคนให้ใช้ไฟ ซึ่งก็แล้วแต่นะ คือถ้าอาการของใจเรา มีลักษณะที่เราไปทำลายทิ้งโดยไม่เกิดความรู้สึกว่ามันเข้ากันกับการใช้โทสะเนี่ยก็โอเคหมด จะใช้ไฟหรือว่าจะใช้กรรไกรตัดก็แล้วแต่นะครับ ขออย่างเดียวอย่ามีความกังวลหรือว่าอย่ามีจิตที่หม่นหมองไปด้วยก็แล้วกันนะครับ เพราะไอ้ความกังวลหรือความรู้สึกหม่นหมองเนี่ยมันทำให้ ตัวนี้แหละที่จะดึงที่จะลากเอาความเป็นอกุศลเข้ามานะครับ

File: ดังตฤณวิสัชนา On Air ตอนที่ ๑๗
นาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๕๕