Pages

Long Live The king

Long Live The king

October 02, 2013

รับมือ รับหุ้นช่วงผันผวน

รับมือ รับหุ้นช่วงผันผวน

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)


คราวที่แล้วขายแพง ตอนคนส่วนใหญ่โลภ ...มันฟังดูง่ายจริงๆ แต่ถ้าคุณลองใช้เงินจริงๆ ของคุณเอง เชื่อผมเถอะว่า คุณต้องต่อสู้กับ Greed & Fear ในตัวของคุณเองอย่างมาก...

ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เป็นเวลาที่หุ้นทั้งตลาดกำลังปรับฐานลงแบบรุนแรง ด้วยข่าวการหยุดทำ QE ของอเมริกา ...แต่คุณเชื่อผมเถอะว่า “ปาระเบิดเข้าไปแล้ว ผลกระทบยังคงอยู่ และการเฟ้อขึ้นของราคา Asset ในภาพใหญ่จะเกิดขึ้นแน่นอน ...ดังนั้น การย่อตัวของราคาหุ้น และ Commodity ในวันนี้ มันเป็นจังหวะที่เราควรซื้อมากกว่าขาย ...แต่เชื่อไหมว่า เวลาที่หุ้นถูก คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ซื้อ เพราะคนในตลาดจะมีอยู่ 2 กลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มแรก คือคนที่เล่นหุ้นอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่เวลาหุ้นลงแรงๆ จะติดดอยอยู่ ดังนั้น เวลาที่หุ้นลงมาหนักๆ เขารู้ว่าหุ้นถูกมากๆ แต่ตัวเองไม่มีเงินจะซื้อเพราะติดดอยอยู่

...กลุ่มสอง คือ คนที่ยังไม่เคยเล่นหุ้น พวกนี้มีเงินสด แต่คนเหล่านี้ไม่รู้จักหุ้น เลยไม่รู้ว่าเวลานี้เป็นโอกาสซื้อของถูก ...คนกลุ่มแรกมักจะอิจฉาคนกลุ่มสองว่าโชคดีจริงๆ มีเงินเวลาที่หุ้นถูก แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า เวลาหุ้นถูก มันคือเวลาที่ในตลาดมีแต่ข่าวร้าย ...คนกลุ่มที่สองที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหุ้น เขาไม่กล้าซื้อหรอก เพราะเขาจะไม่รู้ว่าอะไรที่แปลว่าถูก หรืออะไรที่แปลว่าแพง ...ในกรณีที่เขาโชคดีได้ซื้อจริงๆ เขาก็จะได้กำไรไม่มาก เพราะเวลากำไรเขาก็จะรีบขายเลยได้กำไรนิดเดียวอยู่ดี

สิ่งที่ผมอยากจะชี้ประเด็นให้เห็นก็คือ ไม่มีใครเข้ามาฟลุกจากตลาดแล้วจะสามารถรวยอย่างยั่งยืน ...คนที่เข้ามาเล่นหุ้นแล้วกำไรระยะสั้น สุดท้ายก็จะคืนเงินกำไรแถมเข้าเนื้อขาดทุนเวลาเมื่อตลาดปรับฐาน เพราะจังหวะที่มือใหม่เข้าตลาด มักจะเป็นภาวะที่ตลาดมีแต่ข่าวดี ก็จะเป็นภาวะที่หุ้นแพงนั่นเอง ดังนั้น พอตลาดปรับฐานไอ้เงินกำไรที่เขาได้ๆ มาก่อนหน้า ก็จะคืนหมดแถมขาดทุนอีก

จะเห็นได้ว่า การที่สามารถอยู่ในตลาดหุ้นและทำกำไร จนสร้างตัวได้เป็นสิบเป็นร้อยๆ เท่าเหมือนเซียนหุ้นที่เราเห็นๆ มันต้องผ่านภาวะตลาดต่างๆ ที่ทดสอบใจ และเพิ่มประสบการณ์เรื่อยๆ ...ยกตัวอย่างบริษัทดีๆ อย่าง CPN “เซ็นทรัล” – คุณรู้ไหมเวลารอบที่ราคามันลงต่ำ ในเวลาที่เซ็นทรัลอยู่ใน Cycle ธุรกิจที่แย่ หุ้น CPN เคยลงไปที่ 20 สตางค์ ...และเวลาที่ CPN อยู่ในขาขึ้น ในภาวะที่ดี ราคาหุ้นเคยขึ้นไปที่ 60 บาท ...ถามหน่อยว่า คนส่วนใหญ่จะซื้อหุ้นนี้เมื่อไหร่ – ตอบง่ายๆ คนส่วนใหญ่ก็ต้องซื้อเมื่อ CPN ดูดี ก็นั่นแหละ ซื้อกันที่ 60 บาท ...ถามหน่อยว่า ซื้อตอนดี แล้วเขาขายตอนไหน ...“ก็ซื้อตอนดี ก็ต้องไปขายตอนแย่ไง ...บ้าจริงๆ แต่มันคือเรื่องจริง”

วิธีการง่ายๆ (แต่ทำยาก) คือ การเข้าตลาด เข้าใจ Cycle ของธุรกิจ แล้วก็ซื้อในวันที่แย่ CPN มีแต่ข่าวร้าย ใกล้เจ๊ง ...นั่นแหละ ซื้อ 20 สตางค์ แล้วไปขายเมื่อไหร่ก็ได้ที่ CPN เข้า Cycle ที่ดี ...ขายตรงไหนก็กำไรสุดๆ ..และผมจะบอกอีกว่า หุ้นดีๆ แบบนี้ และโอกาสดีๆ แบบนี้มีมากมาย และเกิดขึ้นตลอดเวลา ...“ตลาดมันรอคนที่เข้าใจไปสร้างความรวย ...แต่คนคนนั้นต้องเอาชนะความโลภและความกลัวของตัวเอง จึงจะชนะอารมณ์และสร้างความรวยสุดๆ ได้นั่นเอง” ผมเล่าให้ฟังในเรื่อง QE ที่รัฐบาลประเทศมหาอำนาจทั้งสามต่างพิมพ์เงิน เพิ่ม Supply ของเงิน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบระยะสั้น ช่วยแก้เงินฝืดชั่วคราว แต่จะสร้างปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว และที่น่ากลัวคือ “รัฐบาลประเทศเหล่านั้น เขาคิดว่าเขาสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ...แต่เชื่อผมเถอะว่า สุดท้ายมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด โดยเฉพาะลุงเบน เบอร์แนนคี ประธาน FED ที่บอกว่า ทุกอย่างควบคุมได้...ฟังแล้วฮาสุดๆ” – โอเค นึกภาพว่า มีผู้ร้ายเข้ามาในเมืองคุณ แล้วคุณก็แก้ปัญหากำจัดผู้ร้ายโดยการปาระเบิดเข้าไปในเมือง แล้วคุณบอกว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย ...การปาระเบิดเข้าไปในเมือง มันสามารถแก้ปัญหาระยะสั้นคือ ฆ่าผู้ร้ายได้ (รึเปล่า ...คนร้ายบางส่วนอาจยังไม่ตายด้วยซ้ำ?) แต่ความเสียหายมันเกิดขึ้น และมันจะกระทบต่อคนในเมืองแน่นอน

“สิ่งที่ตามมา” คือ เงินเฟ้อ บวกกับความผันผวนของราคาสินค้าอย่างสุดโต่ง ซึ่งสิ่งที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ราคา Commodity (อาหารและพลังงาน) และราคาหุ้น ...ดังนั้น ถ้าเราต้องการรักษาความมั่งคั่งของตัวเราเอง เราต้องเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นก็คือ “ต้องเข้าใจว่า จากนี้ไป ราคา Asset ต่างๆ ตั้งแต่ทองคำ Commodity อาหาร และหุ้น ...ราคาจะขึ้นลงอย่างบ้าเลือด

สิ่งที่เราต้องเข้าใจคือ ภาพใหญ่ของ Asset มันต้องขึ้น++ ...เพราะเงินมันเฟ้อ และภาพใหญ่ของมูลค่าเงินมันต้องลดลง เพราะเงินมันเฟ้อนั่นเอง”

สรุปง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วมีความเข้าใจแน่วแน่ในสิ่งที่เกิดขึ้น ...ทุกวิกฤตของการลงปรับฐานของราคาหุ้น และ Commodity มันจะเป็นภาวะที่เราสามารถซื้อ Asset ในราคาที่ถูกนั่นเอง ...ซื้อเพิ่มจำนวนของ Asset ไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต ...จากนั้นก็ถือไปจนเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะปกติ จากนั้นพอเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะปกติ ราคา Asset ที่เราถือจะพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลอีกครั้ง ...และจุดนั้นแหละที่เราต้องขาย Asset ที่ถือครองทั้งหมดในภาพใหญ่แล้วทำกำไร

“ที่ผมเล่าให้ฟัง มันเป็นวิธีการสร้างความรวยแบบสุดๆ จากตลาดหุ้น หากเราเข้าใจกลไล Classic ที่ว่า คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นเจ๊งเสมอ และวันที่คนกลัวสุดๆ วันนั้นเราต้องซื้อหุ้น ...และวันใดก็ตามที่เศรษฐกิจดูดี มีแต่ข่าวดี ทุกคนโลภสุดๆ วันนั้นต้องขายล้าง Port เพื่อทำกำไร --- “ซื้อถูก” เวลาคนส่วนใหญ่กลัว แล้วถือไปขายแพง ตอนคนส่วนใหญ่โลภ ...มันฟังดูง่ายจริงๆ แต่ถ้าคุณลองใช้เงินจริงๆ ของคุณเอง เชื่อผมเถอะว่า คุณต้องต่อสู้กับ Greed & Fear ในตัวของคุณเองอย่างมาก”
เครดิต : http://www.posttoday.com/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99/250434/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A7%E0%B8%99

October 01, 2013

พอร์ตหลังสหรัฐขยายเพดานหนี้ไม่ทันเวลา

โบรกฯ แนะลดพอร์ตหลังสหรัฐขยายเพดานหนี้ไม่ทันเวลา ชี้รอซื้อช่วงดัชนี 1,380-1,350 จุด กลุ่มแบงก์ สื่อสาร รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์
บทวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ ระบุว่า 1. กรณีสภาอนุมัติงบประมาณปี 57 ไม่ทัน คาดว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัด โดย GDP สหรัฐฯ ปรับลดลง 0.27-0.50 ppt ในช่วงที่ต้องปิดหน่วยงานของรัฐชั่วคราว 20 วัน ในช่วงเดือนธันวาคม 1995 เนื่องจาก พนักงานรัฐที่ถูกให้มีการหยุดแบบ Unpaid Leave จะได้รับเงินคืนทั้งหมดในที่สุด ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงเพียง 3.7% โดยมีโอกาส 50% ที่สภาฯจะไม่สามารถผ่านงบฯ ได้ทันเส้นตาย
2. กรณีขยายวงเงินเพดานหนี้ไม่ทัน 17 ตุลาคมนี้จะมีผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน เนื่องจากไม่มีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายและชำระหนี้ แต่ข่าวดีคือ เฟดจะยังคงนโยบาย QE ต่อไปจนถึงต้นปีหน้า โดยในอดีตเคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2011 พบว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 ดิ่งลงจากระดับ 1300 จุด ลงมาที่ระดับ 1100 จุด หรือ -15.4% / DJIA จาก 12724.41 (21/7) ลงมาที่ 10719.94 จุด (10/8) ภายใน 2 สัปดาห์ หรือลดลง 15.8% และ ราคาทองคำปรับขึ้น จาก $1596 ต่อออนซ์ (21/7) ไปที่ $1897 ต่อออนซ์ (23/8)
ดังนั้นแนวโน้ม หากสหรัฐไม่สามารถขยายเพดานหนี้ทันกำหนดเส้นตาย คือ 1. ตลาดหุ้นโลกลดลงแรง จากการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ 2. ยิลด์บอนด์สหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นชั่วคราว จากการส่งสัญญาณเตือนหั่นเครดิตของสถาบันจัดอันดับ S&P, Moody ผิดนัดชำระหนี้ 3. ทองคำขึ้นไปทดสอบระดับ 1400 ดอลล์ต่ออนซ์ จากการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ ไม่คาดว่าจะเกิดปัญหานาน เพราะเป็นเรื่องเกมการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถประนีประนอมกันได้ในวันสุดท้าย หรือ Delay ไม่นาน (จะเกิดการแรลลี่ หากสภาฯ อนุมัติการขยายเพดานหนี้)
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาด คาดว่า สภาสหรัฐฯ จะสามารถหาข้อยุติได้ทันเส้นตาย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยปลายปีก่อนอีกครั้ง เนื่องจาก เกมทางการเมืองระหว่าง 2 พรรค ที่ต่างไม่ยอมประนีประนอม ซึ่งจะยิ่งสร้างความกังวลให้กับตลาดมากขึ้น ซึ่งการที่รีพับลิกันยื้อให้โอบามายืดเวลาการเริ่มใช้กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพออกไป จะทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในกระบวนการและความมั่นคงทางการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งในปี 2011 ปัญหานี้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก ประกอบกับที่อัตราผลตอบพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่แล้ว แม้ว่าจะปรับลดลงมาบ้าง จากที่เฟดยังคงปริมาณการซื้อสินทรัพย์ แต่ปัญหาเพดานหนี้จะเป็นการซ้ำเติมให้อัตราผลตอบพันธบัตรสหรัฐฯ กลับสูงขึ้นอีกได้ และจะเป็นผลลบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้
ทั้งนี้การลดขนาด QE อาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม หรือต้นปีหน้า หากสภาสหรัฐฯ ไม่อนุมัติงบฯ โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดเฟดเริ่มลดวงเงิน QE ในเดือน ธ.ค. โดยประเด็นการลดขนาด QE จะเป็นปัจจัยลบระยะสั้น ต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยเฉพาะประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูง) เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย ไทย ฯลฯ โดยคาดว่า การลดขนาด QE3 มีโอกาสสูงที่จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ หรือกรณีเร็วที่สุด อาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม เพราะเฟดไม่ได้มีการส่งสัญญาณว่ามีการเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นการลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ (QE) แต่อย่างใด ยกเว้นการส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก และเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงกรณีสภาสหรัฐฯเกิดปัญหา Fiscal Cliff ทำให้มุมมองของการลดขนาด QE มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า หรือรอจนกว่า งบประมาณปี 57F ของสภาสหรัฐฯได้ข้อยุติ และข้อมูลเศรษฐกิจส่งสัญญาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุว่า แม้ทางพื้นฐานจะยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้ม SET ระยะ 14 เดือนข้างหน้า ด้วยเป้าหมายปลายปี 2014 ที่ 1,650 จุด แต่ถ้าพิจารณาในเชิง Sentiment ควร “ลดพอร์ต” ในกรณีที่ปิดต่ำกว่า 1,410 จุด
สอดคล้องกับ บล.เคที ซีมิโก้ ที่ระบุว่า ให้ขายหุ้นออกไปก่อน เพื่อรอซื้อคืน เมื่อตลาดเกิด Panic Sell บริเวณ 1,380-1,350 จุด โดยเฉพาะหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ แบงก์ สื่อสาร และกลุ่ม High Beta รับเหมาฯ อสังหาฯ ส่วนหุ้นปันผลดี แนะนำ สะสมเมื่อราคาอ่อนตัว BTS BECL INTUCH SITHAI
ส่วนบล.โกลเบล็ก ระบุว่า ในช่วงระยะสั้นๆ ดัชนีจึงมีโอกาสซึมลงต่อโดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ เส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์แถว ๆ 1372 จุด สำหรับแนวต้านกรณีดีดกลับอยู่บริเวณ 1,442 จุด

September 29, 2013

กินโยเกิรต นมเปรี้ยวอย่างไรได้ประโยขน์

กินโยเกิร์ต-นมเปรี้ยวอย่างไร? ได้ประโยชน์!

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2556 เวลา 00:00 น.
คลับสุขภาพศุกร์นี้มาเติมสิ่งดีๆ ให้กับกระเพาะอาหารและสำไส้ หลายคนอาจทราบว่า โยเกิร์ตและนมเปรี้ยว เป็นอาหารอีกชนิดที่ดีต่อสุขภาพ แต่ที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้น ไม่ใช่ทุกชนิดที่ทานแล้วได้ประโยชน์จริงๆ
โยเกิร์ต (Yoghurt) และนมเปรี้ยว (Drinking yoghurt) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนมสด หรือนมพร่องมันเนย โดยการใช้แบคทีเรีย แลคโตบาซิลัส และสเตรปโตคอคคัส เป็นหลัก ใส่ลงไปหมักผลิตภัณฑ์นมต่างๆ จากนั้นแบคทีเรียเหล่านี้จะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรดแลคติค จนมีภาวะกรด และมีรสเปรี้ยว โดยความเป็นกรด-ด่าง อยู่ระหว่าง 3.8-4.6 หลังนำแบคทีเรียข้างต้นไปหมักกับนมก็จะได้เป็นนมเปรี้ยว ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ชนิดแรกเป็น ‘นมเปรี้ยว’ ที่มีลักษณะเป็นน้ำคล้ายเครื่องดื่ม อีกชนิดหนึ่งเป็นนมเปรี้ยว ที่มีลักษณะเหลวข้นที่เรียกว่า ‘โยเกิร์ต’ นั่นเองค่ะ
โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวยังได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดอาหารมีประโยชน์ที่ผลิตจากนมโค อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารครบถ้วนเทียบเท่ากับนมโคสด และในบางตำรายังกล่าวว่า ให้คุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมสด เช่น โปรตีนเคซีนในนมเปรี้ยวจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีกว่า เพราะย่อยสลายได้ง่ายกว่า
สำหรับโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่เราคุ้นเคยกันอยู่นั้น อาจไม่ใช่โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่กำลังจะกล่าวถึง เพราะจุดประสงค์ของการทานโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ถูกต้อง คือ ทานแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตจำนวนมาก (ประมาณหมื่นล้านตัวต่อกรัม) เพื่อหวังผลต่อสุขภาพ
ส่วนโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่เราซื้อหากันในท้องตลาด ส่วนใหญ่ทำขึ้นโดยการปรุงแต่งรสชาติให้อร่อย บางชนิดไม่สมควรเรียกว่าโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวด้วยซ้ำ เพราะนำไปฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิสูงและนำมาบรรจุกล่อง ซึ่งแท้ที่จริงน่าจะเรียกว่าซากโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวมากกว่านะคะ แถมบางชนิดใส่น้ำตาลมากไปจนน่าสงสัยว่าจะได้ประโยชน์จากโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวจริงๆ หรือไม่ และบางชนิดมีการเจือจางจนปริมาณแบคทีเรียเหลือจนอยู่น้อยมาก
ดังนั้นโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ดี ไม่ควรมีส่วนผสมอย่างอื่นเข้าไปเจือปน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล สี สารเจลาติน กลิ่น รสสังเคราะห์ เพราะทำให้คุณค่าของโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวด้อยลง แม้ว่าเราอาจจะไม่คุ้นเคยต่อโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวรสธรรมชาติ แต่ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ท่านก็จะสามารถทานโยเกิร์ตธรรมชาติด้วยความสบายใจและอร่อยกันค่ะ
มาดูกันต่อนะคะว่า โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไร...
1.โยเกิร์ตย่อยง่าย เพราะน้ำตาลแลคโตสเป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดการแพ้นมหรือท้องเสียถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติกที่ย่อยง่าย นอกจากนี้แบคทีเรียในโยเกิร์ตยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนนม ที่ชื่อ เคซีน ซึ่งเป็นโปรตีนย่อยยาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ต่อน้ำตาลแลคโตสและโปรตีนเคซีน
2.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยยับยั้งจุลชีพที่ไม่เป็นมิตรในลำไส้ โดยกรดแลคติคจะช่วยต่อต้านจุลชีพที่อาจให้โทษต่อร่างกาย เช่น เชื้อซัลโมเนลา, อี โคไล, โคลินแบคทีเรีย ทำให้เชื้อเหล่านี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ เราจึงควรทานโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีกลุ่มแบคทีเรียที่ดีอาศัยอยู่ภายในลำไส้
3.เป็นแหล่งวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามิน บี1(ไรโบฟลาวิน) แบคทีเรียในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวยังช่วยสังเคราะห์วิตามินบี และวิตามินเค ในลำไส้
4.ช่วยรักษาอาการท้องเสีย ท้องเดิน และแผลในกระเพาะอาหาร จากการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยเด็กหายจากอาการท้องเสียเร็วขึ้น หลังจากได้ทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว
5.ร่างกายดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น กรดแลคติคในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวช่วยทำให้การย่อยแคลเซียมในนมดีขึ้นและทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมง่ายขึ้น
6.เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวจะมีโปรตีนมากกว่าในนม ร้อยละ20 และยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปได้ดี
7.ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะแลคโตบาซิลัสช่วยควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
8.ช่วยป้องกันมะเร็ง โดยแลคโตบาซิลัสสามารถจับกับสารก่อมะเร็ง ทั้งยังสามารถจับกับโลหะหนัก และกรดน้ำดีซึ่งมีพิษ แลคโตบาซิลัสช่วยยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ที่สร้างสารไนเตรทได้ (สารไนเตรทเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่ง) และแลคโตบาซิลัสยังช่วยเปลี่ยนสารฟลาโวนอยด์จากพืชให้เป็นสารต้านมะเร็งได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านคงต้องรีบไปหาโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว ที่มีคุณสมบัติดีๆ มาติดตู้เย็นกันแล้วใช่ไหมคะ ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน เพื่อร่างกายของเรา และคนที่เรารักให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันเถอะค่ะ อย่าลืมค่ะว่า You are what you eat เลือกทานอะไรดีๆ จะได้มีร่างกายที่แข็งแรงกันนะคะ.
"PrincessFangy"
twitter.com/PrincessFangy
อ้างอิงบางส่วนจาก www.goodhealth.co.th

September 27, 2013

เทศกาลวันไหว้พระจันทร์

เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ 

ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามจันทรคติ ของจีน (ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 19 กันยายน 2556) ดังนั้น จึงเรียก ว่าเทศกาลเดือนแปด (เดือนกันยายน หรือตุลาคม) เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทศกาลหนึ่ง ของชาวจีน เป็นวันซึ่งอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงพอดีจึงอาจจะเรียกได้ว่า เทศกาล 中秋 ” จงชิว “ ตามอักษรจีน 中 จง แปลว่า กลาง 秋 ชิว แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง จงชิวจึงแปลว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง

เนื่องด้วยในช่วงเวลาของเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงใหญ่ที่สุด และส่องสว่างที่สุด เป็นช่วงที่ชาวบ้านรับรู้และถือปฏิบัติมานมนามว่าเป็นวันที่มีเสน่ห์และโรแมนติกวันหนึ่ง โดยเฉพาะภายใต้พระจันทร์ขาวนวลผ่องกลม ๆ ที่ส่องอยู่บนท้องฟ้า วันนี้เป็นวันที่พระจันทร์กลมและใหญ่เป็นพิเศษ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่บรรยากาศนี้จะเป็นโอกาสที่เหล่าหนุ่มสาวคู่รักนัดพบกัน และจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การเซ่นไหว้พระจันทร์ การคำนับพระจันทร์

ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ หรือเวียดนามจะจัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร ทั้งนี้จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น
วันไหว้พระจันทร์มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือได้รับการนิยามว่าเป็น “วันแห่งการอยู่พร้อมหน้าของครอบครัว” เพราะชาวจีนเห็นว่า วงกลมของพระจันทร์เปรียบเสมือนการครบถ้วนบริบูรณ์ของสมาชิกครอบครัวนั่นเอง

ฉะนั้น ชาวจีนจึงนิยมอยู่กันพร้อมหน้าในวันไหว้พระจันทร์ รับประทานอาหารร่วมกัน รอจนถึงเวลาที่จันทร์เพ็ญลอยกระจ่างฟ้า ก็จะกางโต๊ะในลานกลางแจ้ง จัดผลไม้ขนมขบเคี้ยวและอาหารอื่นๆ หลากหลายไว้บนโต๊ะ แล้วจึงเซ่นไหว้พระจันทร์ด้วยกัน ขอให้มีความสุขและความบริบูรณ์กันถ้วนหน้า
月饼”เยว่ปิ่ง” (Yue Bing) หรือ “ขนมไหว้พระจันทร์” (Moon Cake) เป็นของกินที่ขาดเสียไม่ได้ในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ มีการจำหน่ายกันล่วงหน้าก่อนวันไหว้พระจันทร์ประมาณ 1 เดือน แต่หลังจากวันไหว้พระจันทร์ผ่านไปแล้วก็จะไม่มีผู้ซื้ออีก ขนมไหว้พระจันทร์จะทำเป็นรูปกลม จะสอดไส้ชนิดต่างๆ เช่น งา อบเชย ถั่วลิสงและถั่วบด เป็นต้น ปัจจุบันนั้นได้มีการประยุกต์ไส้และรูปแบบของขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นมามากมายเช่น ทุเรียน ไข่เค็ม ไอศครีม รวมถึงสีสันเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของผู้จัดจำหน่ายอีกด้วย


เทศกาลวันไหว้พระจันทร์

Cr.http://club.sanook.com/8365/เทศกาลไหว้พระจันทร์

http://club.sanook.com/8365/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C

September 26, 2013

การเลือกใช้ยาสีฟัน


          ยาสีฟัน
เป็นของคู่กันกับการแปรงฟัน เพราะนอกจากจะช่วยในการทำความสะอาดฟันและเหงือกแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นหลังจากแปรงฟันด้วย

 ส่วนประกอบในยาสีฟัน 
          ปัจจุบันมียาสีฟันจำนวนมากที่วางขายตามท้องตลาด ทำให้หลายคนมีคำถามว่าจะเลือกใช้ยาสีฟันยี่ห้อไหนดี การเลือกใช้ยาสีฟันมีหลักง่ายๆ คือ เลือกตามความต้องการโดยดูจากส่วนประกอบสำคัญในยาสีฟันนั้นๆ โดยทั่วไปยาสีฟันที่นิยมใช้จะมีลักษณะเป็นครีมข้นประกอบด้วยผงขัดที่ละเอียดเพื่อช่วยขจัดคราบฟัน มีสารที่ทำให้เกิดฟองซึ่งจะช่วยให้คราบฟันถูกขจัดออกได้ง่าย มีการแต่งกลิ่นและรสเพื่อให้น่าใช้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสารเก็บความชื้น สารช่วยยึด สารกันบูดและสารฟลูออไรด์

การเลือกใช้ยาสีฟัน 
ส่วนประกอบของยาสีฟันแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละคนดังนี้
          1. ช่วยในการป้องกันฟันผุ ส่วนประกอบในยาสีฟันที่มีผลต่อการป้องกันฟันผุคือ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้วว่า ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุได้จริง ในประเทศไทยกำหนดให้เติมฟลูออไรด์ในยาสีฟันได้ไม่เกินร้อยละ 0.11 หรือ 1,100 ส่วนในส่วนประกอบล้านส่วน (ppm.) และต้องได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ด้วยยาสีฟันส่วนใหญ่ที่มีขายทั่วไปมักจะมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ด้วย และหลายยี่ห้อจะมีคำว่า เอฟ (F) ต่อท้าย แต่ก็มีบางยี่ห้อที่มีคำว่า เอฟ แต่ไม่มีฟลูออไรด์ ฉะนั้นเราจึงควรศึกษารายละเอียดข้างกล่องในการเลือกใช้ให้ถูกต้อง
          รูปแบบของฟลูออไรด์ที่ใช้มี ชนิดคือ โซเดียมฟลูออไรด์กับโซเดียมโมโนฟลูออไรด์ฟอสเฟต ซึ่งในแต่ละยี่ห้อจะผสมสัดส่วนของฟลูออไรด์ทั้งสองต่างๆ กัน หรือใช้เพียงอย่างเดียว
          ส่วนยาสีฟันที่ใช้สำหรับเด็กจะมีปริมาณฟลูออไรด์ต่ำกว่า 1,000 PPM. เช่น คอลเกตจูเนียร์มีฟลูออไรด์ 500 PPM. และโคโดโมเจลมีฟลูออไรด์ 850 PPM. ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการที่เด็กกลืนฟลูออไรด์เข้าไปมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุก็จะลดลงด้วย
          2. ช่วยในการลดเชื้อซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ ในยาสีฟันบางยี่ห้อมีการเติมารที่ช่วยในการลดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ เช่น สารไตรโคซาน ตัวอย่างเช่น คอลเกตโททอล ช้ไตรโคซานเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะคงตัวอยู่ในช่องปากได้นาน 4-12 ชั่วโมงภายหลังการใช้ สารอีกตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการลดเชื้อในช่องปากได้เช่นกัน ก็คือ สารไธมอล ซึ่งเป็นสารลดเชื้อที่มีอยู่ในยาสีฟันใกล้ชิดและพบว่า เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาบ้วนปากลิสเตรอรีน ด้วย เพราะสารไธมอลจะคงตัวอยู่ในช่องปาก และยังคงมีฤทธิ์ในการระงับเชื้อภายหลังการใช้ประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนสารอีกตัวที่กำลังมาแรงก็คือ ทีที ออยส์ มีอยู่ในยาสีฟันใกล้ชิด แต่การคงตัวในช่องปากจะค่อนข้างต่ำเช่นเดียวกับไธมอล
          3. ช่วยในการทำให้ฟันขาวขึ้น โดยการขัดคราบสีฟันออกทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น ยาสีฟันในกลุ่มนี้จึงเน้นไปที่ผงขัดฟันที่มีความหยาบกว่าปกติ เช่น ไดแคลเซียมฟอสเฟต (แซคท์) อลูมินั่มไฮดรอกไซด์ (เดนิวิท) อลูมินั่มออกไซด์ (คอลเกต-เซนเซชั่น) แคลไซน์อลูมินา (ดาร์ลี่ เฟรช แอนด์ ไบรท์) ซิลิคอนไดออกไซด์ (ใกล้ชิด) อลูมินั่มซิลิเกท (Glister)
          ส่วนการทำให้ฟันขาวขึ้นอีกวิธีหนึ่ง คือ การฟอกสีฟัน (Bleeching) พบว่า มีเพียงสปาร์เกิ้ลสูตรเปอร์ออกไซด์เท่านั้นที่มีคาร์บาไมค์เปอร์ออกไซด์ ร้อยละ ซึ่งเป็นสารที่สามารถฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่สารเปอร์ออกไซด์จะก่อให้เกิดการแพ้ และระคายเคืองต่อเหงือกมีได้สูง จึงควรระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สักหน่อย
          4. ช่วยลดอาการเสียวฟัน มีการใช้สาร ชนิด คือ สตรอนเตรียม คลอไรด์ (เซ็นโซดายน์สีแดง) และโปรตัสเซียมไนเตรดในการลดอาการเสียวฟัน โดยจะสามารถแก้เสียวฟันได้หลังการใช้ยาสีฟันประมาณ 20 ครั้งขึ้นไป ช่วยในการรักษาโรคเหงือก จะมีการใส่สารหรือสมุนไพรต่างๆ เข้าไปในยาสีฟัน เพื่อช่วยในการรักษาโรคเหงือก โดยจะช่วยลดเชื้อ Methyl-4-Esculetal Sodium (ไพโอดอลทิล) กานพลู หรือ Clove oil ฯลฯ สารบางตัวจะเพิ่มความแข็งแรงของเหงือก เช่น วิตามิน P, โปรวิตามินบี 5, Allantoin ฯลฯ ส่วนคาโมไมล์ จะมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ ทรานเอกชามิค เอซิด (ซอลท์) จะช่วยห้ามเลือด เป็นต้น 

ยาสีฟันสมุนไพร 

 ยาสีฟันสมุนไพร –
          สมุนไพรไทยที่นำมาใช้ในยาสีฟัน ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยข่อย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่โบราณมาแล้ว ส่วนที่นำมาใช้คือ กิ่งเล็กๆ หรือเปลือก เนื่องจากพบว่าเปลือกข่อยมีสารเทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการระงับเชื้อได้ ในขณะเดียวกันจะช่วยเคลือบฟันได้ด้วย
          กานพูล ส่วนที่นำมาใช้มักจะเป็นดอกซึ่งมีน้ำมัน มีฤทธิ์ในการระงับเชื้ออย่างอ่อน นอกจากนี้ก็มี เกลือ ลิ้นทะเล (กระดองปลาหมึก) ใช้เป็นผงขัดฟัน พิมเสน การบูร ชะเอมเทศ ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติ ส่วนสมุนไพรต่างประเทศที่นำมาผสมในยาสีฟัน จะพบว่ามีตัวหลักๆ คือ คาโมไมล์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เมอร์เปปเปอร์มิ้นท์ เสจ เอคชินาเซีย แรททาเนีย เป็นสมุนไพรที่นำมาผสมในยาสีฟันเพื่อช่วยในการรักษาโรคเหงือก โสม (Ginseng) เป็นสมุนไพรที่มักใช้เป็นยาบำรุงกำลังก็มีการนำมาผสมในยาสีฟันก๊กเลี้ยง จาเป่า และรัสตี้

ปัญหาจากการใช้ยาสีฟัน 
          ปัญหาจากการใช้ยาสีฟัน โดยปกติแล้วจะพบได้น้อยมาก ที่อาจจะพบได้บ้าง ก็คือ การแพ้ยาสีฟัน เยื่ออ่อนในช่องปากจะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง บางรายอาจมีอาการบวม แดงที่ริมฝีปาก สาเหตุเกิดจากการแพ้สารบางตัวในยาสีฟันนั่นเอง เช่น บางคนจะแพ้เมนทอล ซึ่งเป็นสารแต่งกลิ่นและรสยาสีฟัน หรืออาจจะแพ้ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน วิธีแก้ไขก็คือ เปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันอื่นที่มีสารตัวนั้นน้อยลง
          การใช้ยาสีฟันบางชนิดเพื่อขจัดคราบบุหรี่ และคราบอาหาร ซึ่งจะมีผงขัดมาก ก็อาจจะเกิดปัญหาทำให้ฟันสึกได้ จึงไม่ควรใช้ทุกวัน ยาสีฟันบางชนิดผสมสมุนไพร มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมานทำให้เหงอกดูเหมือนแน่นขึ้น ซึ่งต้องระวังในผู้ที่เป็นโรคปริทันต์ ซึ่งอาจมีหินปูนอยู่ใต้เหงือก ยังไม่ได้ขูดออก อาจมีการติดเชื้อใต้เหงือกเกิดขึ้นได้

หลักการเลือกใช้ยาสีฟัน 
ในการใช้ยาสีฟันควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้คือ
           เป็นยาสีฟันประเภทครีม (Paste) หรือ เจล (Gel) เพราะจะไม่ทำให้ฟันสึกมากเมื่อเทียบกับชนิดผง
           มีฟลูออไรด์ผสมอยู่ด้วยเพราะสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้
           มีราคาเหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณภาพของยาสีฟัน
           เลือกตามปัญหาของแต่ละคน เช่น ผู้ที่มีอาการเสียวฟันอาจใช้ยาสีฟันที่แก้การเสียวฟันโดยเฉพาะ และเมื่อหมดอาการแล้วก็อาจจะใช้ยาสีฟันชนิดธรรมดาก็ได้
           นอกจากนี้เวลาแปรงฟันควรให้ยาสีฟันสัมผัสกับผิวฟันไม่น้อยกว่า นาที จึงจะเป็นการใช้ยาสีฟันในการป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
          บทความนี้เรียบเรียงจากข้อเขียนของทันตแพทย์ภราดร ชัยเจริญ ซึ่งท่านได้ทำการสำรวจข้อมูลเมื่อปีพ.ศ.2542 ปัจจุบันมียาสีฟันใหม่ๆ ออกมาขายอีกมากมาย ฉะนั้นข้อมูลบางอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไป และไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณท่านในโอกาสนี้ด้วย

ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 26 ฉบับที่ 10 ตุลาคม 2545
http://www.elib-online.com/doctors46/dental_dentrifice001.html

September 25, 2013

“ธวัชชัย แสงธรรมชัย” จาก “รู้ สู้! Flood” สู่บริษัทโฆษณาเพื่อสังคม

หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งเกิดวิกฤตภาวะน้ำท่วมปี 2554 ท่ามกลางความสับสนอลหม่านกับข้อมูลการสื่อสารจากภาครัฐ มีบุคคลอยู่กลุ่มหนึ่งที่ผลิตสื่อสร้างสรรค์ชื่อ “รู้ สู้! Flood” ในรูปแบบของวิดีโออนิเมชัน โดยมีวาฬเป็นสัญลักษณ์ เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าใจที่มาที่ไปของน้ำท่วม การรับมือและการอยู่ร่วมกับน้ำท่วม รวมไปถึงบทบาทของตัวเองและการฟื้นฟูภายหลังน้ำท่วม จนกลายเป็นที่รู้จักและแพร่หลายอย่างรวดเร็วในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ธวัชชัย แสงธรรมชัย
        ธวัชชัย แสงธรรมชัย” หรือ “อู๋” อดีตครีเอทีฟโฆษณา หนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ช่วยกันผลิตสื่อดังกล่าว จนหลายคนจดจำภาพลักษณ์ของการเป็นจิตอาสาที่ออกมาทำงานเพื่อสังคม แม้ปัจจุบัน “ธวัชชัย” จะเปิดบริษัทเอเยนซีโฆษณาและสื่อประชาสัมพันธ์ของตัวเองในนาม “วาย น็อต โซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์” แต่ก็ยังไม่ลืมไว้ลายที่จะดำเนินกิจการในแบบเพื่อประโยชน์ของสังคมด้วย
      
       ที่เป็นเช่นนั้น เพราะการดำเนินกิจการของบริษัทนี้ จะไม่รับลูกค้าที่เป็นบริษัทที่ต้องการทำการตลาดเพื่อขายสินค้าเหมือนสมัยที่เป็นครีเอทีฟอยู่ในบริษัทโฆษณา แต่รับเฉพาะลูกค้าที่เป็นกลุ่มองค์กรที่สร้างสรรค์สังคมและทำงานเพื่อสังคมเท่านั้น เช่น มูลนิธิ เอ็นจีโอ หน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานด้านนี้
      
        ตอนที่เป็นครีเอทีฟในบริษัทโฆษณา ความสุขความสำเร็จในการทำงานคือตัวเงิน แต่ถึงวันหนึ่งก็มาถามตัวเองว่าสิ่งนี้เป็นความสุขสำหรับเราจริงหรือเปล่า เพราะสุดท้ายต่อให้เราทำโฆษณาได้เจ๋งสุดยอด ช่วยให้บริษัทขายสินค้าได้มากมาย สิ่งทีที่เราได้ตอบแทนก็คือตัวเงิน แต่มันยังไม่ใช่ความสุขที่สุด ซึ่งผมก็ได้ค้นพบว่า ผมมีความสุขตอนที่ศักยภาพในการทำงานของเราเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้” ธวัชชัย เล่าถึงจุดพลิกผันในการลาออกจากครีเอทีฟบริษัทโฆษณาเพื่อมาทำงานด้านสังคม
      
        แม้จะออกมาทำงานเพื่อสังคม แต่สิ่งที่ “ธวัชชัย”ถนัดก็คืองาน “โฆษณา” จึงเลือกทำโฆษณาที่สร้างสรรค์สังคม จากเดิมปกติที่ต้องทำงานกับลูกค้า จึงหันมาทำงานกับกลุ่มองค์กรเพื่อสังคมแทน ซึ่งครั้งนี้ “ธวัชชัย” ไม่ขอเรียกว่าเป็นลูกค้า แต่ขอเรียกว่าเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงานร่วมกันแทน
      
        ที่เลือกทำโฆษณาให้แก่กลุ่มองค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม เพราะเมื่อพูดถึงงานเพื่อสังคมคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามันดูเข้าถึงยาก น่าเบื่อ ดูจน เนื่องจากไม่เคยถูกทำเป็นโฆษณาให้น่าสนใจเหมือนบริษัทที่ขายสินค้าและบริการทั่วไป เพราะมีทรัพยากรจำกัด จึงยังเข้าไม่ถึงมวลชนมากนัก แต่จากการทำงานด้านนี้ทำให้เห็นว่าโฆษณามีพลังที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ได้ ทำให้คนที่รับชมโฆษณาพร้อมจ่ายเงินซื้อสินค้าในสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิตได้ หากสามารถนำงานเพื่อสังคมมาบอกเล่าผ่านสิ่งที่ทรงพลังอย่างโฆษณาได้ เชื่อว่าเรื่องดีๆ ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นในสังคมได้อีกมาก เพราะสิ่งที่เขาทำเพื่อสังคมมันมีผลกระทบในเชิงสื่อสารมากขึ้น
      
        สำหรับขอบข่ายงานที่ “ธวัชชัย” ทำมีทั้งที่คิดโฆษณาออกมาเป็นชิ้นเลย วางแผนการผลิตสื่อ เป็นที่ปรึกษาให้แก่องค์กรเพื่อสังคมต่างๆ ในการที่จะคิดให้เองว่างานนี้ควรที่จะทำสื่อประเภทไหนอย่างไรให้เหมาะสม ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็มีทั้งตลาดนัดจิตอาสาในโครงการคนไทยขอมือหน่อย โครงการสุขภาพคนพิการ และแรงงานนอกระบบ เป็นต้น
      
        อย่างไรก็ตาม แม้ “ธวัชชัย” จะเปิดบริษัทโฆษณาที่ทำงานเพื่อสังคม แต่ไม่อยากให้คนทั่วไปติดภาพลักษณ์ว่า การทำงานเพื่อสังคมเป็นการทำความดีที่ทำแล้วต้องถูกต้องเสมอและดีที่สุดเสมอ
      
       ธวัชชัย ให้เหตุผลว่า ความดีเป็นเรื่องส่วนบุคคลและมีความเป็นนามธรรมมากๆ ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงการทำความดีแล้ว คนจะนึกถึงการช่วยเหลือกัน เป็นงานจิตอาสาที่ว่างเมื่อไรก็ค่อยมาทำ และปัญหาคือมักจะคิดว่าคนที่ทำความดีจะต้องเป็นคนดี ทำอะไรถูกต้องและดีที่สุดเสมอ ซึ่งคิดว่าคนไทยควรที่จะต้องหลุดออกมาจากกรอบนามธรรมของความดี ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าบริษัททำโฆษณาสร้างสรรค์สังคมให้กับองค์กรหนึ่ง หากทำได้ดีก็ต้องบอกว่าดี หากทำออกมาได้ห่วยก็ต้องต่อว่า ก็ต้องบอกว่าห่วย ไม่ใช่ว่าทำโฆษณาเพื่อสังคมแล้วจะต้องดีเพอร์เฟกต์ไปเสียหมด
      
        นอกจากนี้ ธวัชชัย ยังแนะนำว่า การทำความดีไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้มีเวลาว่างเพื่อที่จะออกไปทำงานพวกจิตอาสา หรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ขอเพียงทำอาชีพของตัวเองให้เป็นความดีก็ถือว่าได้ทำความดีและได้ช่วยสังคมแล้ว อยากให้ทุกคนมองว่าความดีสามารถทำเป็นอาชีพได้ อย่างคนขายก๋วยเตี๋ยวก้สามารถทำความดีเป็นอาชีพได้ ขอเพียงมีความซื่อสัตย์ต่องานที่ทำ ไม่ใช้หม้อที่มีสารตะกั่ว เลือกวัตถุดิบในการทำที่สด สะอาด และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ก็ถือเป็นการทำความดีแบบเป็นอาชีพแล้ว


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119562


โดนใจ ที่มีคนคิดแบบนี้อยู่ เราก็อยากทำแนวนี้ 

September 19, 2013

ที่ประชุมเฟดทำเซอร์ไพรส์ไม่ลดระดับQEและคงดอกเบี้ยระดับต่ำ

19.9.56 ที่ประชุมเฟดทำเซอร์ไพรส์ไม่ลดระดับQEและคงดอกเบี้ยระดับต่ำ

       
    
       เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เมื่อวันพุธ(18) มีมติคงระดับโปรแกรมเข้าซื้อพันธบัตรไว้ที่เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ตามเดิม ความเคลื่อนไหวที่สร้างความประหลาดใจแก่นักวิเคราะห์ที่คาดหมายว่าจะลดการกระตุ้นลงเนื่องจากเศรษฐกิจเติบโต แถมในทางกลับกันยังปรับลดประมาณการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าลง อ้างถึงผลกระทบที่ได้รับจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในขณะที่ประเทศยังตะเกียกตะกายหลุดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง
    
       นอกจากนี้แล้วที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) ยังเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วันที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อวันอังคาร(17) ว่าทางธนาคารกลางแห่งนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเตี้ยติดพื้น ร้อยละ 0.-0.25 ต่อไป หลังจากอยู่ในระดับนี้มาตั้งแต่ปี 2008 ด้วยอัตราคนว่างงานยังอยู่เหนือร้อยละ 6.5 และตัวเลขเงินเฟ้อยังไม่ถึงขั้นที่น่ากังวล
    
       อย่างไรก็ตามนาย เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะตัดสินใจลดระดับการกระตุ้นเศรฐกิจในช่วงปลายปี "เราอาจเคลื่อนไหวในช่วงปลายปีนี้ถ้าเศรษฐกิจยังคงเติบโตต่อไป และคณะผู้กำหนดนโยบายของเฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ"
    
       คำแถลงของ FOMC ระบุว่าแม้เศรษฐกิจมีท่าทางฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางการตัดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลโดยทั่วถึงทั้งหมดทุกภาคส่วนของรัฐบาล(sequester) แต่ทางคณะกรรมการตัดสินใจรอหลักฐานเพิ่มเติมว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจจะยั่งยืน ก่อนปรับระดับการเข้าซื้อพันธบัตร พร้อมชี้เป็นไปได้ว่าด้วยอัตราดอกเบี้ยทีสูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ได้ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจชะลอตัวแล้วในตอนนี้
เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแถลงกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธ(18) หลังเสร็จสิ้นการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน
       เฟด ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะเริ่มต้นลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน ซึ่งมีเป้าหมายกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดต่ำลง หลังนายเบอร์นันกี คาดคะเนเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าจะมีการลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง ขณะที่เหล่านักวิเคราะห์ยังถกเถียงกันว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ(QE)นี้ ควรถูกลดลงไปเท่าใดถึงจะเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่ก็คาดหมายกันไล่ตั้งแต่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ไปจนถึง 25,000 ล้านต่อเดือน
    
       FOMC ยอมรับว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับปานกลาง แต่ขณะเดียวกันสภาวะของตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นแก่นกลางของนโยบายเฟดในขณะนี้ ดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กระนั้นก็ตามพวกเขาเน้นว่าอัตราคนว่างงานระดับร้อยละ 7.3 ในเดือนสิงหาคม ยังถือว่าสูงอยู่
    
       ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษกิจของอเมริกาในปี 2013 ลง 0.3 จุด อยู่ที่ราวร้อยละ 2.0-2.3 พร้อมกับปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าลงสู่ร้อยละ 2.9 ถึง 3.1 ในปี 2014
    
       อย่างไรก็ตามทาง FOMC มีมุมมองต่อตลาดงานในอนาคตที่ดีขึ้น ด้วยประมาณการณ์ว่าอัตราคนว่างงานจะลดลงสู่ระดับร้อยละ 6.4 ถึง 6.8 ในช่วงปลายปี 2014 ขณะที่คาดหมายว่าอัตราคนว่างงานในปี 2013 จะอยู่ราวๆร้อยละ 7.1 ถึง 7.3

ขอขอบคุณ http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000118102

August 28, 2013

ร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศสบาย ๆ สไตล์โรแมนติก


ข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 

ขอขอบคุณ  http://travel.kapook.com/view69401.html

            นอกจากร้านอาหารจะต้องรสชาติแจ่มแล้ว บรรยากาศของร้านก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้นักชิมแวะเวียนมาลิ้มรส และหากคุณกำลังมองร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ริมน้ำ ไว้สำหรับทานอาหารกับคนพิเศษ ครอบครัว รวมถึงเป็นจุดนัดพบระหว่างเพื่อนฝูง มาคุยกันสบาย ๆ อยู่ละก็ กระปุกท่องเที่ยวได้รวบรวมเอา 30 ร้านอาหารริมน้ำ ในโซนกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงมาบอกกัน รับรองได้ว่าเด็ดโดนใจแน่นอน ส่วนจะเป็นร้านไหนบ้างนั้น ตามเราไปชมกันเลยค่ะ 

            1. Sheep village

30 ร้านอาหารริมน้ำ

            เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารร้านแรก นั่นก็คือ ร้าน Sheep village ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ฟาร์ม เหมือนหมู่บ้านเล็ก ๆ คล้ายหมู่บ้านยุโรปในสมัยก่อน ในบรรยากาศสุดวินเทจริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเข้ามาภายในบริเวณร้านก็จะเจอคอกฝูงแกะอยู่ด้านหน้าร้านคอย ต้อนรับ ซึ่งสามารถเข้าไปป้อนอาหาร ถ่ายรูปคู่ได้ นอกจากนี้ ยังมีสัตว์อื่น ๆ เช่น ไก่แจ้และเป็ดคอยต้อนรับอีกด้วย ส่วนภายในร้านเป็นการตกแต่งด้วยรูปถ่ายเก่า ๆ เข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีดำ ซึ่งทางร้านมี 2 โซน ให้เลือก คือ โซนด้านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว และโซนด้านนอกบริเวณระเบียงของร้าน สำหรับผู้ที่ชอบชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำ รับลมเย็น ๆ หรือถ้าใครชื่นชอบเสียงเพลงทางร้านก็มีห้องคาราโอเกะไว้รองรับเช่น ขณะที่อาหารของทางร้านเน้นเมนูในราคาสบายกระเป๋า เช่น ปลากะพงสมุนไพร, คอหมูย่างกระทะร้อน, ปลากะพงทอดน้ำปลา และแกงส้มชะอมกุ้ง เป็นต้น 

            เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-02.00 น.
           
 ที่อยู่ : 162 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 86/1 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
           
 โทรศัพท์ : 08 5777 5544
           
 เว็บไซต์ : sheepvillage2012.com และ เฟซบุ๊ก Sheep Village
 

            รีวิว 

            “Sheep Village” หมู่บ้านแห่งฟาร์มอร่อย


            2. River Bar

30 ร้านอาหารริมน้ำ

            ร้านอาหารกึ่งบาร์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มคนที่รักและทำงานด้านศิลปะกว่า 20 คน ภายใต้แนวความคิดที่ว่า "ตั้งใจอยากจะให้คนเมืองมีสถานที่พักผ่อนแบบสบาย ๆ" บริเวณร้านมีการออกแบบให้เป็นหลังคาสูง เพื่อให้ภายในร้านดูโล่ง โปร่ง พร้อมด้วยเคาน์เตอร์บาร์ไว้รองรับ โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนของชานไม้ริมน้ำ สำหรับคนที่ชอบทานอาหารเคล้าสายลมไปด้วย และโซนในร่มที่ล้อมรอบด้วยกระจกใส สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณ ด้านนอกได้อย่างชัดเจน  สำหรับเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว, ปลาเก๋าราดพริก, ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน, ซีซาร์สลัด, ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน, ปลาช่อนโบราณ, กุ้งทอดกระเทียม, ออส่วน และสปาเกตตีปลาเค็ม เป็นต้น

          
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-02.00 น.
          
 ที่อยู่ : 405/1 ซ.เจ้าพระยา สยาม ถ.ราชวิถี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2879 1747-8
          
 เว็บไซต์ : riverbar.com และ เฟซบุ๊ก River Bar wine:dining 
 

           รีวิว 

           อาทิตย์อัสดงริมเจ้าพระยา @ River bar

 
           3. In Love Bar & Restaurant

           ร้านอาหารบรรยากาศดีอีกร้านหนึ่ง สำหรับ In Love Bar & Restaurant ตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำเทเวศร์ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณร้านเน้นดีไซน์รูปแบบอาคารที่ผสมผสานระหว่างไทยและโมเดิร์น ตกแต่งร้านให้เรียบหรูด้วย เฟอร์นิเจอร์ไม้ บริเวณร้านมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นส่วนที่รองรับลูกค้าที่ทานอาหารกลางวัน ส่วนบริเวณชั้นบนจะเป็นส่วนรองรับลูกค้าที่มาทานอาหารรับลมในเวลาตอนเย็นจนถึงตอนกลางคืน ซึ่งบริเวณชั้นบนเปิดกว้างสามารถมองเห็นวิวของสะพาน 8 พร้อมรับบรรยากาศเย็น ๆ ริมแม่น้ำได้อย่างชัดเจน โดยอาหารของทางร้านเน้นอาหารไทย, จีน และยุโรป ส่วนเมนูแนะนำ ได้แก่ กุ้งผัดพริกไทยดำ, ยำส้มโอไก่กรอบ และกระเพราไก่กรอบ เป็นต้น
 
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00-01.00 น.
          
 ที่อยู่ : ท่าเรือเทเวศน์ ถ.สามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2281 2900 
           รีวิว 

           พาเที่ยวร้านอินเลิฟ และท่าเรือเทเวศ 

           รีวิว///// บรรยากาศ ดี๊ดี ที่ In Love @ ริมเจ้าพระยา

           ร้าน In love บรรยากาศแสนโรแมนติกริมแม่น้ำเทเวศน์

 
           4. ร้านกินลมชมสะพาน        

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           อีกหนึ่งในร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บนเชิงสะพานพระราม 8 โดยร้านมีความโดดเด่นที่บรรยากาศสบาย ๆ กว้างขวาง โครงสร้างหลักเป็นไม้ระแนงสีขาวตีไขว้กันไปมา เพื่อให้ภายในร้านสามารถรับลมเย็นสบายได้เป็นอย่างดี ให้บรรยากาศคล้ายไปทานอาหารริมทะเล ซึ่งทางร้านแบ่งเป็น 2 โซนให้เลือก คือ บริเวณด้านในร้านและด้านนอกร้าน เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มาทานกับครอบครัวใหญ่ รวมทั้งสามารถนัดเพื่อนฝูงมาพบปะสังสรรค์ใน บรรยากาศแบบเป็นกันเอง ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ปลากะพงย่างเกลือ, กุ้งแม่น้ำผัดพริกเกลือ, นกกระจอกเทศกระทะร้อน, เมี่ยงกุ้งฝอย และปูผัดพริกไทยดำ เป็นต้น 
 
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00-02.00 น.
          
 ที่อยู่ : 116/6 ซอยสามเสน 3  ถ.สามเสน แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2628 8382-3
          
 เว็บไซต์ : khinlomchomsaphan.com และ เฟซบุ๊ก ตำนานร้านกินลม ชมสะพาน พระรามแปด

           รีวิว 

          "กินลมชมสะพาน" (พระราม 8) อร่อยทั้งอาหารและบรรยากาศ

          + + = = = + + รีวิวร้านกินลมชมสะพาน บรรยากาศดีใกล้สะพานพระราม 8 ค่ะ + + = = = + +

 
          5. สามเสน สโมสร

          ร้านอาหารสามเสน สโมสร เป็นร้านทีตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศความสบายสุดซอยสามเสน 3 ที่เริ่มจากการรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ มาลงขันเปิดร้านนี้ขึ้น โดยการออกแบบร้านดัดแปลงมาจากบ้านพัก เดิม เน้นความเรียบง่าย โล่ง ๆ โปร่งตา รับลมเย็นได้ตลอดเวลา ตัวร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนภายในบ้าน มีกิจกรรมโต๊ะโกลด์และพูลให้เล่นกับเพื่อน ๆ โซนต่อมา คือ บริเวณด้านนอก โปร่งสบาย เน้นการตกแต่งด้วยโต๊ะและเก้าอี้ในโทนสีขาว ส่วนบริเวณสุดท้าย คือ เป็นโซนของบาร์บริเวณต้นไทรใหญ่ ที่ประดับโคมไฟเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติก อีกทั้งยังสามารถมองชมวิวทิวทัศน์ของสะพานพระราม 8 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงเย็นของทุกวันศุกร์-เสาร์ จะมีวงดนตรีมาเล่นดนตรีสดในได้ฟัง คลอไปกับการทานอาหารอร่อย ๆ ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ไก่ทอดเกลือ, กุ้งสามเสน, ปลาเก๋าผัดพริกไทยดำ และปูนิ่มหลน เป็นต้น 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-24.00 น.
         
 ที่อยู่ : 10 ซ.สามเสน 3 ถ.สามเสน วัดสามพระยา พระนคร กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2628 8362
 

          รีวิว

          สามเสนสโมสร ร้านอาหารบรรยากาศดี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

 
          6. Steve Café & Cuisine

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้าน Steve Café & Cuisine เป็นลักษณะร้านอาหารไทยที่เน้นสำหรับครอบครัว (Home Made) เหมือนได้มานั่งทานอาหารฝีมือคุณแม่หรือคุณยายทำให้ทานอยู่ที่บ้าน และทางร้านยังเน้นการบริการที่เป็นกันเอง นอกจากนี้ บ้านไทยริมน้ำหลังนี้ยังมีการตกแต่งร้านในสไตล์แนวเรโทร แต่แต่งแต้มไปด้วยสีสัน เช่น ห้องสีเหลืองมัสตาร์ด หรือห้องสีส้มคลาสสิก เพิ่มความสดใสให้กับภายในของบ้านริมแม่น้ำที่มีอายุกว่า 60 ปีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคงรักษาบรรยากาศของความเป็นบ้านริมแม่น้ำแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน ผู้ที่แวะมาชิมอาหารสามารถเลือกที่จะนั่งด้านนอก ใกล้ชิดธรรมชาติสูดอากาศ บริสุทธิ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือภายในห้องปรับอากาศที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์งดงามของแม่น้ำได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มาเป็นหมู่คณะ ทางร้านยังสามารถจัดเป็นกลุ่มส่วนตัว 10-20 คนให้ได้อีกด้วย สำหรับเมนูแนะนำ ได้แก่ เมี่ยงคำ กุ้งพันตะไคร้, หอยเชส์ลผัดฉ่า และโรตีแกงเขียวหวานเนื้อ เป็นต้น
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ช่วงเช้าวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-14.30 น., ช่วงเย็น เวลา 16.30-23.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-23.00 น.
         
 ที่อยู่ : 68 ถ.ศรีอยุธยา ซ.ศรีอยุธยา 21 แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 08 1868 0744, 0 2281 0915, 0 2280 2989
         
 เว็บไซต์ : stevecafeandcuisine.com และ เฟซบุ๊ก Steve Cafe & Cuisine

          รีวิว
          [CR]Do is on Steve Cafe & Cuisine @ วัดเทวราชกุญชร
          [CR]>>แม่หญิง<< กินลม ชมวิว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา "Steve Cafe' & Cuisine"

 
          7. บ้านเหนือน้ำ

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองปทุมธานี ตกแต่งร้านให้มีดีไซน์เก๋  ๆ ด้วย เฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ มีลักษณะเป็นบ้านสองชั้นสมัยโบราณหลังไม่ใหญ่มากนัก เสาและตัวบ้านอยู่ในแม่น้ำ แต่ได้ขยายหรือต่อเติมเป็นร้านอาหาร โดยนั่งรับประทานอาหารอยู่ในบ้าน แต่ได้วิวหรือบรรยากาศเย็นสบายจากลมที่พัดพาเอาความเย็นจาก แม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กุ้งแม่น้ำเผา, ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน, ไข่เจียวทะเลทรงเครื่อง, ลาบปลาตะเพียน, ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ, ต้มยำปลาม้า และบัวลอยบังเอิญ เป็นต้น 
 
         
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
         
 ที่อยู่ : 16 ถ.เกรณาวัฒนะ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
         
 โทรศัพท์ : 0 2978 0966 , 08 1480 9661
         
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Baan Nhuer Nham Thai Cuisine
 

          รีวิว

          รีวิว "บ้านเหนือน้ำ" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลางเมืองปทุมฯ

          ร้านอาหารไทย "บ้านเหนือน้ำ" บรรยากาศดี อาหารเลิศ ราคาไม่แพง
 
          8. เรือมโนราห์ 

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          สำหรับที่ชื่นชอบการล่องเรือ และไม่อยากทานอาหารแบบเดิม เรือมโนราห์ (Manorah Cruise) คือเรือสำหรับดินเนอร์ในแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน โดยลักษณะของเรือยังคงเอกลักษณ์เป็นรูปแบบเดิม คือ เรือบรรทุกข้าวในสมัยโบราณ ซึ่งสร้างขึ้นจากไม้ทั้งลำ หลังจากนั้นก็มีการดัดแปลงด้วยการผสมความเป็นร้านอาหาร ด้วยการตกแต่งให้เป็นเรือทรงไทยสุดหรูสไตล์โคโลเนียน เหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่สุดพิเศษสำหรับคู่รักหรือครอบครัว เพราะล่องเรือผ่านสถานที่สำคัญหลายที่ เช่น วัดอรุณฯ, พระบรมมหาราชวัง, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี และวัดต่าง ๆ อีกมากมาย สำหรับเมนูอาหารของร้านยังคงเน้นเป็น อาหารไทยสไตล์ ฟิวชั่น โดยสามารถเลือกเป็นเซตได้ เช่น ดีลักซ์ ดินเนอร์ sliver menu (อาหารไทย 6 เมนู) ราคา 1,900 บาท สำหรับเด็ก 1,300 บาท และดีลักซ์ ดินเนอร์ gold menu (อาหารไทย 9 เมนู) ราคา 2,500 บาท สำหรับเด็ก ราคา 1,900 บาท

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 19.00-22.00 น
         
 ที่อยู่ : 72/171 ม.5 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (ขึ้นเรือที่ออกจากท่าเรือโรงแรมอนันตรากรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์  รีสอร์ทแอนด์สปาเวลา 19.30 น.)
         
 โทรศัพท์ : 0 2147 1060, 08 1912 3412 
         
 เว็บไซต์ : thairivercruise.com


          9. สยาม 77 (Siam 77 Vintage Home and Restaurant)

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารสไตล์บ้านไม้โบราณ อายุกว่า 50 ปี สร้างด้วยไม้สักและไม้มะค่าโมงแผ่นใหญ่ ซึ่งถึงแม้จะถูกดัดแปลงมาเป็นร้านอาหารริมน้ำ แต่ก็ยังคงความเป็นบ้านไม้ดั่งเดิม ตกแต่งภายในร้านด้วยของเก่าที่เจ้าบ้านสะสมมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่สมัยคุณปู่ ซึ่งเป็นโมเดลอย่างดีสำหรับระลึกถึงอดีต ที่ตั้งของร้านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใต้สะพานพระราม 5 ให้บรรยากาศร่มรื่น มีลมพัดเย็นสบาย ฟังดนตรีสดของนักร้องเสียงดี ที่มาขับกล่อมบทเพลงคลอกับการ ทานอาหารรสอร่อย เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า "กินข้าวในบ้าน ร่ำสุราริมน้ำ ฮับเพลงหวานเมื่อวันวาน" สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กุ้งตะไล, ลุ่มเจ้าพระยา, ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน, ยำคู่รัก, โรตีแกงเขียวหวาน และยำหัวปลีตานี เป็นต้น

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.
         
 ที่อยู่ : 77 ม.6 เชิงสะพานพระราม 5 บริเวณท่าน้ำพิบูลย์สงคราม 2 ถ.พิบูลสงคราม ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
         
 โทรศัพท์ : 08 6368 5362, 08 0971 7772, 0 2527 7535, 08 3824 6263, 08 9781 9665
         
 เว็บไซต์ : siam77.com

          รีวิว

          จัดจ้านฉู่ฉี่-ต้มยำปลา 'สยาม77' ริมเจ้าพระยา


          10. Buri Tara Bar and Restaurant

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นผสมกลิ่นอายของบาหลี ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำแถวโครงการจตุจักร 3 สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ บรรยากาศความสวยงามของสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นอย่างดี ส่วนภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้รูปร่างต่าง ๆ พร้อมด้วยการนำเทียนมาเพิ่มความ โรแมนติกภายในร้าน โดยแบ่งออกเป็นสองฝั่งให้เลือก คือ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ และบริเวณภายในบ้าน นอกจากนี้ ทางร้านยังมีวงดนตรีเล่นสดมาเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารให้มากขึ้นด้วย ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ หมึกไข่นึ่งมะนาว, ไก่ทอดเกลือทรงเครื่อง, กุ้งซอสมะขาม และแกงเลียงกุ้งแม่น้ำ เป็นต้น
 
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-24.00 น.
          
 ที่อยู่ : 762/2 อาคารโครงการจตุจักร พระราม 3 ถ.พระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2682 9457, 0 2682 9458, 0 2682 9459, 0 2295 0896
          
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Buri Tara Bar And Restaurant


          11. สุภัทรา ริเวอร์ เฮาส์

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ร้านอาหารบรรยากาศไทย ๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เน้นการออกแบบร้านแบบเรือนไทยเหมือนศาลากลางน้ำ พร้อมด้วยชานหน้าบ้านรับลมเย็นสบาย แถมในช่วงเย็นยังจะได้ความโรแมนติกพร้อมด้วยความสวยงามจากแสงไฟจากพระบรมหาราชวัง บริเวณหน้าร้านให้ความรู้สึกร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวขจี โดยบริเวณที่นั่งแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ ภายในบ้านเน้นความเป็นส่วนตัว และบริเวณชานริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เน้นการรับบรรยากาศสบาย ๆ ชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ สำหรับอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหาร ชาววัง ซึ่งเมนูแนะของร้าน ได้แก่ ปลากะพง 3 รส, แกงคั่วสับปะรด, ปลาช่อนทอดยำสมุนไพร, ต้มข่าไก่, ปูนิ่มทอดกระเทียม และสละลอยแก้ว เป็นต้น 

           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ช่วงเที่ยงเวลา 11.30-14.30 และช่วงเย็น เวลา 17.30-23.00 น.
          
 ที่อยู่ : 266 ซ.วัดระฆัง ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2411 0874 , 0 2411 0305
          
 เว็บไซต์ : supatrariverhouse.net
 

           รีวิว 
           ทริปครอบครัว...สุภัทราริเวอร์เฮาส์.......

 
           12. บ้านเจ้าพระยา

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ร้านสไตล์โมเดิร์นริมแม่น้ำ บริเวณร้านโดดเด่นด้วยเฉลียงที่ทอดยาวออกไปยังแม่น้ำ สำหรับให้ลูกค้าได้รับลมเย็น ความสดชื่นของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากที่สุด ซึ่งทางร้านตั้งใจออกแบบพื้นที่ของร้านให้เหมือนนั่งทานอยู่ในบ้านมากที่สุด เน้นการบริการอาหารที่ถูกหลักอนามัย อีกทั้งยังมีบริการห้องสำหรับจัดเลี้ยง ถึง 2 ห้องใหญ่ ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กุ้งซอสตะไคร้, ปลากะพงผัดฉ่าน้ำปลา, ปลาช่อนหลุดโค้ง, มัจฉาเริงระบำ, เมี่ยงตะไคร้ และหน่อไม้ทะเลอบยอดผัก เป็นต้น 

           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-14.30 และ เวลา 16.30-22.00 น.
          
 ที่อยู่ : 446 ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซ.94 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2424 1717
          
 เว็บไซต์ : baanchaophaya.com และ เฟซบุ๊ก บ้านเจ้าพระยา

           13. ปลาบุรี ริเวอร์ไซด์

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ปลาบุรี ริเวอร์ไซด์ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินได้ในมุมสวย แถมเมื่อสิ้นแสงของดวงอาทิตย์ก็จะได้ชื่นชมกับความงดงามของสะพานแขวนกับแสงไฟในตอนกลางคืน เรียกได้ว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับ คู่รักมาออกเดท โดยภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนให้เลือก คือ บริเวณในร่มและระเบียงกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังมีพีอาร์ สาวสวยเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น ๆ และมีวงดนตรีสลับสับเปลี่ยนมาให้ความสุขและความบันเทิงตลอดการทานอาหาร ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กุ้งนึ่งกระเทียมโทน, ก๋วยเตี๋ยวอบหม้อดิน และหอยเชลล์อบเนย เป็นต้น
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.30-20.30 น.
         
 ที่อยู่ : 750/3  พระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 08 1735 5382
         
 เว็บไซต์ : pabure-riverside.com และ เฟซบุ๊ก Pabure riverside 
 

          รีวิว

          ร้านปลาบุรีพระราม 3

          14. บ้านกลางน้ำ

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารระดับภัตตาคารเน้นอาหารทะเลเป็นหลัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นของบ้านทรงไทยโบราณ พร้อมดื่มด่ำกับความงามริมแม่น้ำและชื่นชมความงามของสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม แถมทางร้านยังการันตีความอร่อยด้วยรางวัลภัตตาคารอาหารชั้นเลิศ 3 ปีซ้อน ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนให้เลือก คือ โซนห้องแอร์เย็นสบายภายในบ้าน ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านทรงไทย แต่งเติมพื้นที่ด้วยการใช้โคมไฟโบราณประดับ และโซน Open Air รับลมเย็น ๆ ลักษณะเป็นชานยื่นไปริมแม่น้ำเจ้า พระยา ส่วนเมนูแนะนำของร้าน กุ้งแม่น้ำเผา, ปูเนื้อยัดไส้พริกเกลือ, กั้งทอดกระเทียม, ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว และเนื้อนกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ เป็นต้น 
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-22.30 น.
         
 ที่อยู่ : 762/2 อาคาร บางกอกสแควร์ ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2682 7180, 0 2682 7186
         
 เว็บไซต์ : baanklangnam.net

          รีวิว

          ***** ลุงช้างรีวิว สังสรรเล็กๆ ที่บ้านกลางน้ำ 2 จตุจักรพระรามสาม *****

          [ CR ] ZEN + Pullman Bangkok Hotel G + AsiatiQue + บ้านกลางน้ำ + โจ๊กปรินซ์ + ฮั่วเซ่งฮง
 
          15. ร้านเข้าท่า

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมท่าน้ำเทเวศน์ เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนในการทำความฝันของตนให้เป็นจริง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์ไทยสุดฮิตเรื่องปลื้มและฉลุย ด้วยความคิดที่ว่า "ต้องการอยู่ด้วยกันเพื่อรักษาความเป็นเพื่อนไว้ด้วยกันให้มากที่สุด" บริเวณร้านได้บรรยากาศความสวยงามเป็นอย่างดี เพราะตั้งอยู่บริเวณที่มองเห็นสะพานพระราม 8 ภายในร้านมีการดัดแปลงมาจากบ้านเดิม มีการประดับตกแต่งรูปภาพบนฝาผนังสไตล์ วินเทจ นอกจากนี้ ยังมีวงดนตรีมาเล่นสด ๆ เพิ่มอรรถรสในการทานอาหารด้วย ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เต้าหู้ทรงเครื่อง, ปลาเก๋าสามรส, ปลากะพงทอดน้ำปลา, ยำตะไคร้กุ้งสด และห่อหมกทะเล เป็นต้น 

         
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ช่วงเที่ยงเวลา 11.00-14.00 น. และช่วงเย็น เวลา 16.00-01.00 น.
         
 ที่อยู่ : 16/6 ท่าเรือเทเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2628 8801,08 9450 8801
         
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านเข้าท่า เทเวศน์ 
 

          รีวิว 

          กินบรรยากาศที่ร้าน เข้าท่า ท่าน้ำเทเวศร์ กันค่ะ

 
         16. เวนิส วานิช

          ร้านอาหารสบาย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นอิตาลีได้เป็นอย่างดี โดยให้บริการทั้งอาหารไทยและอาหารยุโรป ภายในร้านตกแต่งร้านแบบโมเดิร์น เน้นโครงสร้างขอตัวอาคารด้วยสีขาวตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีมืด แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนในบ้าน และโซนระเบียงนอกบ้านซึ่งเป็นบริเวณดาดฟ้าชั้นสอง ที่ให้ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็ม อิ่ม ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ส้มตำกุ้งยอดมะพร้าว, หอยนางรมกระทะร้อน, ส้มตำไข่กุ้งยอดมะพร้าว, สปาเกตตีซอสกุ้งแม่น้ำเผา และลาบเป็ดกรอบ เป็นต้น 

         
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.
         
 ที่อยู่ : 23 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
         
 โทรศัพท์ : 0 2282 1922, 08 4460 4765
         
 เว็บไซต์ : venicevanich.com

          รีวิว
          
          ~*" รีวิว "*~ ~*~ หม่ำอาหาร ไทย @ เวนิส วานิช ~*~

 
          17. บ้านกัลบก

          ร้านอาหารตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางบรรยากาศแบบชิล ๆ ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ บริเวณในบ้านที่การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า คงความคลาสสิกของตัวบ้าน โต๊ะและเก้าอี้เป็นไม้โทนสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเข้ากับพื้นไม้ในบริเวณบ้านได้เป็นอย่างดี และบริเวณระเบียงริมแม่น้ำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสบาย ๆ ของบรรยากาศ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีขาว รวมถึงบริเวณนอกบ้านยังตกแต่งสไตล์บ้านโบราณ ส่วนอาหารที่นี่จะเน้นอาหาร ไทยโบราณ เมนูแนะนำได้แก่ เมี่ยงปลาช่อนทอด, ต้มส้มกุ้งมะดันสด, น้ำพริกโจร, ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน, ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า และยำเนื้อขุนอิน เป็นต้น 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.
         
 ที่อยู่ : 12 ซ.สุขาประชาสรรค์ 1 แยก 6 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
         
 โทรศัพท์ : 08 1826 7193 
 
          รีวิว 

          บ้านกัลบก .... อาหารอร่อย บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา

          18. Aquatini Restaurant

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          Aquatini Restaurant คือ ห้องอาหารภายใน นาวาลัย ริเวอร์ รีสอร์ท ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่บริเวณย่านพระอาทิตย์ ทำให้สามารถมองเห็นแสง ไฟบนสะพานพระราม 8 เพิ่มความโรแมนติกสุด ๆ และตกแต่งร้านในสไตล์ร่วมสมัย มีค็อกเทลบาร์สุดเก๋ พร้อมโซฟานั่งสบายไม่อึดอัด รับลมเย็น ฟังเพลงเบา ๆ มองเรือน้อยใหญ่ที่แล่นผ่านไปมาเพลิน ๆ บวกกับทัศนียภาพของโค้งน้ำเจ้าพระยา ส่วนเมนูอาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งให้ได้เลือก พร้อมด้วยไวน์ ค็อกเทล ให้นั่งจิบ ส่วนเรื่องอาหารรสชาติอ่อน ๆ สามารถทานได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ ไก่คั่วตะไคร้, ปลากะพง 5 รส, ขาแกะนิวซีแลนด์อบซอสไวน์แดง, ปลากะพงโบราณ, สเต็กปลากะพงอบเนยสมุนไพร และสลัดเนื้อโคขุนสไลด์บัลซามิก เป็นต้น 

        
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.30-01.00 น.
        
 ที่อยู่ : 45/1 อาคาร ชั้น 1 นาวาลัย ริเวอร์ รีสอร์ท ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
        
 โทรศัพท์ : 0 2280 1809
        
 เว็บไซต์ : navalai.com และ เฟซบุ๊ก Aquatini Restaurant

 

         19. บ้านระเบียงน้ำ

30 ร้านอาหารริมน้ำ

         ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาท่ามกลางบรรยากาศความอบอุ่น พร้อมทั้งเมนูอาหารที่หลากหลาย ราคาเป็นกันเอง ภายในร้านมีการออกแบบให้เป็นสไตล์ธรรมชาติและเรียบง่าย โดยมีการดัดแปลงบ้านเก่าให้เป็นร้านบรรยากาศดี ๆ อิงธรรมชาติ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวทางร้านก็มีห้องจัดเลี้ยงขนาด 30 คน ไว้คอยบริการเช่นกัน พร้อมทั้งเครื่องเล่นคาโอเกะสำหรับคนชื่นชอบการร้องเพลง อีกด้วย ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ปลากะพงทอดสมุนไพร 5 รส, กุ้งคั่วกระเทียมพริกสด, กุ้งอบวุ้นเส้น, ต้มข่าปลาสลิด, แกงส้มชะอมกุ้ง และกุ้งใหญ่นึ่งกระเทียมโทน เป็นต้น
 
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30-22.30 น.
        
 ที่อยู่ : ซ.นนทบุรี 23 สนามบินน้ำ(ข้างกระทรวงพาณิชย์) ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
        
 โทรศัพท์ : 0 2968 1481, 08 9182 7100
        
 เว็บไซต์ : baanrabiangnam.com และ เฟซบุ๊ก Baan Rabiang Nam บ้านระเบียงน้ำ  
         รีวิว 

         [CR] [ mimiREview - - อิ่มจังตังค์อยู่ครบ อิ อิ ณ บ้านระเบียงน้ำ ]

         [CR]ร้านบ้านระเบียงน้ำ นนทบุรี กับบรรยากาศร่มรื่น ท่ามกลางสวนสวย


        20. ระเบียงทะเล 2

30 ร้านอาหารริมน้ำ


         ร้านอาหารที่ต่อยอดมาจาก ร้านอาหารลานทอง สวนอาหารแห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการ ที่มีการขยายกิจการสืบทอดความอร่อยออกมาเป็น ร้านระเบียงทะเล 2 เป็นร้านอาหารสไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน ดินได้ มีพื้นที่รองรับกว้างขวาง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับงานจัดเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ และสามารถใช้เป็นสถานที่เป็นจุดนัดพบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางร้านยังเน้นคุณภาพอาหารที่ต้องสด ทุกวัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดใหญ่, แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว, ปลาทูโป๊ะทอดราดพริกสด, ส้มตำทะเลปูม้าสด และห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน เป็นต้น 

         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
        
 ที่อยู่ : 162 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 86/1 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ (ทางร้านแบ่งออกเป็น 3 สาขา คือ   สาขาบางปู จ.สมุทรปราการ, สาขาจรัญสนิทวงศ์ 86/1 และสาขาบางนา กม.5 จ.สมุทรปราการ)
        
 โทรศัพท์ : 0 2879 0911-2 
        
 เว็บไซต์ : rabiengta-le.com และ เฟซบุ๊ก ระเบียงทะเล

         รีวิว

         ((((จันทร์เจ้าเอ๋ยจะรีวิว)))).........."ระเบียงทะเล".....ไปกินลมชมทะเลที่บางปูกันค่ะ...... 

         [CR] พาไปนั่งกินลมชมวิวสวยๆ ..... ร้ า น ส า ย ล ม บ า ง ปู ..... ริมชายทะเลบางแสน 2 @ สมุทรปราการ
         ++ระเบียงทะเล ... ร้านอาหารน่านั่ง ริมฝั่งทะเลบางปู++

 
         21. จักรพงษ์ ไพรเวทไดนิ่ง

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดัดแปลงจากบ้านในวังจักรพงษ์ ที่สร้างในสมัยราชกาลที่ 5 มาเป็นวิลล่าริมน้ำ สำหรับเปิดให้บุคคลภายนอกได้เข้าพักอย่าง จักรพงษ์ วิลล่า และ จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง สถานที่รับประทานอาหารในบรรยากาศแบบส่วนตัว พร้อมด้วยความโรแมนติกสุด ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมสัมผัสกับพระอาทิตย์ตกยามเย็น สายลมเย็นฉ่ำ มองเห็นวิวที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและทิวทัศน์ของวัดอรุณฯ ส่วนบริเวณที่นั่งรับประทานแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ บริเวณศาลาริมน้ำที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และโซนระเบียงด้านนอกที่สามารถจัดเป็นโต๊ะนั่งรับประทานอาหารชมวิวแม่น้ำได้ สำหรับใครที่ต้องการมาทานอาหารที่นี่ก็ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อน เพราะทางร้านรองรับได้ไม่เกิน 30 คน ส่วนเมนูอาหารของร้านเป็นอาหารไทยโบราณต้นตำรับ เช่น หลนกุ้ง, ลาบปลาดุกทอดกรอบ, ฉูฉี่กุ้งแม่น้ำ, ต้มข่าทะเล และมัสมั่นเนื้อ เป็นต้น 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-22.00 น.
         
 ที่อยู่ : 396/1 ถ.มหาราช-ท่าเตียน แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2622 1900, 0 2224 6686, 0 2225 0139
         
 เว็บไซต์ : chakrabongsedining.com 
 

          รีวิว 

          -CR- จักรพงษ์วิลล่า 

          อร่อยหรู ดูวิวเจ้าพระยา ที่ “จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง” 

 
          22. The Good View Bar & Restaurant Bangkok

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้าน อาหารที่เน้นความสะดวกสบาย ด้วยการสร้างอาคารโปร่ง โล่ง ท่ามกลางบรรยากาศเย็น จัดแบ่งมุมออกเป็นสัดส่วน มีมุมต่าง ๆ ในเลือกนั่งมากมาย เช่น บริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ใช้เก้าอี้ไม้ทรงสูง หรือด้านหน้าเวที ส่วนด้านนอกกระจก สามารถฟังเพลงเพลิน ๆ รับลมเย็นสบาย สำหรับการตกแต่งภายในร้านเน้นเก้าอี้ ไม้แบบเป็นแถวยาว ประดับตกแต่งด้วยของเล่นเก่า ๆ ที่จัดเป็นสัดส่วน ซึ่งเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ ขันโตล้านนา, ปลาเห็ดโคนทอดกระเทียม, ขาหมูทอด, กุ้งกระเบื้อง และกุ้งใหญ่มะขาม เป็นต้น 
 
         
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น.
         
 ที่อยู่ : 2525 ถ.เจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2689 1393, 0 2689 1394, 0 2689 1395, 0 2689 1396
         
 เว็บไซต์ : view-goodview.com และ เฟซบุ๊ก The View Bar & Restaurant

          รีวิว 

          QQQQQQQQ~~~~~~~~พาทานอาหารร้าน The Good View Bar & Restaurant และ ครัวกาญจนา ชะอำค่ะ~~~~~~~~QQQQQQQQ

          My First Review @ GooDView Restaurant


          23. Water Side

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ร้านอาหารสไตล์ร่วมสมัย สร้างด้วยไม้ผสมผสานกับการออกแบบตัวอาคารในสไตล์โมเดิร์น เป็นร้านอาหารริมทะเลสาบบรรยากาศน่านั่ง รองรับลูกค้าได้กว่า 1,000 คน มีที่นั่งทั้งแบบในอาคารและแบบนอกอาคาร พร้อมด้วยมุมโรแมนติก สำหรับคู่รัก มุมเฮฮาสำหรับเพื่อฝูง นอกจากนี้ ยังมีห้องคาราโอเกะที่ทันสมัยให้บริการอีก 27 ห้อง โดยห้องทุกห้องเป็นกระจก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ริมน้ำได้ เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและสนุกไปอีกด้วย ทางด้านเมนูแนะนำของร้านมีบริการ ทั้งอาหารไทย, จีน, ซีฟู้ด, ญี่ปุ่น และอาหารฝรั่ง ได้แก่ ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ, ปลากะพงทอดแช่น้ำปลา, พล่ากุ้งแม่น้ำแซ่บ, ต้มยำกุ้งแม่น้ำเผามะพร้าวอ่อน, เกี๊ยวกุ้งทอด และคอหมูย่างกระเทียม เป็นต้น
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น.
         
 ที่อยู่ : 13/16 ม.9 ถ.ประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2943 9496-7(สำรองที่นั่งเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป)
         
 เว็บไซต์ : watersidebkk.com และ เฟซบุ๊ก Waterside Restaurant Bangkok

          รีวิว 

          :+:+:+: เลี้ยง กิน เล่น ร้อง ที่ Waterside ค่า ฉลองรับปริญญาให้พี่ชายค่ะ :+:+:+: 

 
          24. สองฝั่งคลอง

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารที่เน้นความสบาย ๆ ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ตกแต่งด้วยสถาปัตยก รรมแบบโคโลเนียล ด้วยการนำเอา สถาปัตยกรรมไทยสมัยรัชกาลที่ 5 มาผสมผสาน ทั้งการออกแบบประตู หน้าต่าง ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล ประดับด้วยของสะสมโบราณ เช่น ของเล่น อะไหล่รถเก่า ฯลฯ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบของเก่า เหมือนนั่งเล่นในบ้านโบราณ ซึ่งร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ โซนด้านในอาคาร สามารถรองรับลูกค้าได้ 300 ที่นั่ง ส่วนโซนที่สองจะเน้นนั่งรับลมชิล ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยเฉพาะในช่วงค่ำหรือพระอาทิตย์ตกดิน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในโซนนี้สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 500 ที่นั่ง นอกจากนี้ ทางร้านยังเอาใจผู้ที่ต้องการทานอาหารในแบบส่วนตัวด้วยห้อง ราคาโอเกะไว้รองรับจำนวน 2 ห้อง โดยแต่ละห้องสามารถรองรับได้ถึง 40 คน ทางด้านเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เมี่ยงกุ้งฝอย, ยำคอหมูย่างส้มโอ, ปาท่องโก๋ยัดไส้กุ้งทอด, กั้งทอดกระเทียม และสลัดปูนิ่ม เป็นต้น 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ช่วงเช้าเวลา 06.00-10.00 น., ช่วงเที่ยงเวลา 12.00-14.30 น. และช่วงเย็นเวลา 15.00-01.00 น.
         
 ที่อยู่ : 17/55 ม.7 ซ.สุขาประชาสรรค์ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
         
 โทรศัพท์ : 0 2584 2222
         
 เว็บไซต์ : song fang klong restaurant/buddyriverside.com

 

          25. The Water Front

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ร้านอาหารกึ่งผับตั้งอยู่เชิงสะพานกรุงธน ตกแต่งออกเป็น 3 โซน เริ่มที่โซนแรกเต็มที่ไปด้วยเก้าอี้ไม้ยาวสีขาว ที่สามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์รอบตัวได้เป็นอย่างดี โซนต่อมาคือบริเวณชั้น 2 ออกแบบให้เป็นลักษณะชานยื่นออกไปในแม่น้ำรับลมได้อย่างเต็มที่ พร้อมชื่นชมความงามของแสงไฟระยิบระยับของสะพานพระราม 8 ส่วนโซนสุดท้ายเป็นโซนที่เน้นบรรยากาศของผับ แสงไฟสลัว ๆ พร้อมกับชมดนตรีสด ทั้งแบบอะคูสติกและแบนด์ ที่จะเริ่มให้ความสุขของเสียงเพลงตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม นอกจากนี้ ทางร้านยังมีห้องคาราโอเกะไว้รองรับด้วย ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ แซลมอนร็อกเก็ต, กุ้งยัดไส้ครีมสลัด, สลัดวอเตอร์ฟร้อนท์, ยำผิดสัญญา และส้มตำทอด เป็นต้น 

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.30-01.00 น.
         
 ที่อยู่ : เชิงสะพานกรุงธน ถนนราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2883 1802, 0 2434 3316 (หลังเวลา 13.00 น. ของทุกวัน)
         
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Water Front
 

          รีวิว 

          foodfast-food-food.blogspot.com
 

          26. บุหงา ริมน้ำ

          เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพียบพร้อมไปด้วยสายลมและวิวทิวทัศน์สุดงดงาม อีกทั้งยังสามารถมองเห๋นสะพานพระราม 8 ได้อย่างชุดเจน ตัวร้านออกแบบให้เป็นระเบียงโล่ง ทำให้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สี น้ำตาลเข้มเป็นหลัก เน้นการตกแต่งด้วยไม้ระแนง ส่วนเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กุ้งบุหงา, ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และปลาหมึกผัดไข่เค็ม เป็นต้น 
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.
         
 ที่อยู่ : 244/24 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
         
 โทรศัพท์ : 0 2435 7675, 08 1700 2087
 

          รีวิว 
          
          เฟซบุ๊ก aroys.com ศูนย์รวมร้านอาหารในประเทศไทย บนอินเตอร์เน็ต
          เฟซบุ๊ก OpenRice Thailand 


          27. สวนทิพย์ บ้านเจ้าพระยา

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          หนึ่งในร้านอาหารริมน้ำชั้นนำของไทย ที่ได้รับคำชื่นชมในเอกลักษณ์ของการทำอาหารไทยต้นตำหรับดั้งเดิม ซึ่งร้านตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ร่มรื่น สวยงาม มีมุมรับประทานอาหารตามศาลาหลังเล็ก ที่ตั้งรายล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ในส่วนพื้นที่ของร้านอาหารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ บนศาลาเรือนใหญ่ (เรือนดวงดอกไม้) มีพื้นที่รับประทานอาหาร ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของสวนสีเขียวได้เป็นอย่างดี และศาลาเรือนเล็กที่เหมาะกับการจัดงานสังสรรค์ใหญ่ ๆ งานจัดเลี้ยงกลุ่ม แต่ละศาลาจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน และศาลาบางหลังสามารถมองเห็นวิวทิมทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย ส่วนอาหารของร้านเน้นเป็นอาหารไทยต้นตำรับ ตั้งแต่เครื่องคาวหวานในเทศกาลต่าง ๆ เครื่องดื่มสมุนไพรที่เข้ากับบรรยากาศ ของเทศกาลนั้น ๆ เมนูแนะนำ ได้แก่ ไก่ห่อใบเตย, ไก่ย่างสวนทิพย์, เมี่ยงคะน้า, น้ำพริกมะขาม, แสร้งว่ากุ้งแม่น้ำและปลาดุกฟู และข้าวแช่ เป็นต้น 

          
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-12.00 น.
          
 ที่อยู่ : ถ.สุขาประชาสรรค์ 2 (ซ.แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 3) ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
          
 โทรศัพท์ : 0 2583 3748, 0 2583 4540 2
          
 เว็บไซต์ : suanthip.com
 

           รีวิว

           สวนทิพย์ @ ปากเกร็ด 

           ๑๑๑๑๑.....[CR] ลุงไปกินมื้อเย็น อาหารไทย ร้านดัง สวนทิพย์ ที่ริมน้ำ ปากเกร็ด ครับ....๑๑๑๑๑

           รีวิวเล็กๆ ณ.ร้าน สวนทิพย์ บ้านเจ้าพระยาคร่า


           28. To-Sit Pier 92

30 ร้านอาหารริมน้ำ

           ร้านริมน้ำเจ้าพระยาสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ที่สามารถมองเห็นขอบฟ้ากว้าง พร้อมล่ำลาพระอาทิตย์ยามอัสดง และปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายน้ำ ซึ่ง To-Sit pier 92 โดดเด่นด้วยประภาคารจำลองสีสดใส มีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่ง และมีบริเวณส่วนรับประทานอาหารริมน้ำที่ยื่นล้ำไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับเสียงดนตรีอะคูสติกใส ๆ จากนักร้องนักดนตรีมืออาชีพทำให้ยามค่ำคืนของที่นี่อบอุ่นและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ To-Sit Pier 92 คือห้อง Lover Room (เลิฟเวอร์ รูม) ภายในประภาคารสีขาวที่แสนโรแมนติก ห้องส่วนตัวที่คุณสามารถนั่งรับประทานอาหารมื้อพิเศษ พูดคุยมองตากับคนรู้ใจได้ โดยไม่ต้องกังวลกังเสียงรบกวนหรือสายตาคู่อื่น ส่วนเมนูแนะนำ ได้แก่ ห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ไก่ห่อใบเตย, ทอดมันกุ้ง และลาบหมู เป็นต้น 

           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น.
          
 ที่อยู่ : 113 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 92 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2879 1717, 08 9205 4242
          
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก To-Sit Pier 92

           รีวิว

           รีวิว ร้าน to sit pier92 ค่ะ
 
          29. ครัวริมน้ำ

30 ร้านอาหารริมน้ำ

          ครัวริมน้ำ ร้านอาหารวิวดีริมทะเลสาบ บรรยากาศสบาย ๆ มีการตกแต่งมุมต่าง ๆ สำหรับนั่งผ่อนคลายได้อย่างเหมาะเจาะ ถ้าตกเย็นแสงไฟจะส่องประกายระยิบระยับไปทั่วสุดงดงาม โดยบรรยากาศภายในร้านแบ่งเป็น 3 โซน คือ โซนภายในร้านที่จัดแบ่งโต๊ะเก้าอี้ไว้หลากหลายแบบ เน้นสีสันสดใส, โซน Open Air เน้นของตกแต่งเล็ก ๆ พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวดูสบายตา และโซนสุดท้ายเป็นชั้น 2 ของร้าน ถือเป็นโซนโรแมนติกที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ ทะเลสาบได้อย่างชัดเจน ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ กุ้งตะไล, ต้มแซ่บเอ็นแก้ว, แกงส้มชะอมกุ้งสด, ปลาช่อนทอดลุยสวน และกุ้งสมุนไพรริมน้ำ เป็นต้น 

         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-24.00 น.
        
 ที่อยู่ : อาคาร ติดถนนเลียงเมืองปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
        
โทรศัพท์ : 08 1812 5145, 08 1448 1730
        
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ครัวริมน้ำ


         30. สุ่ม 4 สุ่ม 5

30 ร้านอาหารริมน้ำ

         ร้านอาหารกึ่งผับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในร้านเน้นการบริการตัวเองแบบบุฟเฟ่ต์ ออกแบบร้านที่เปิดโล่ง ทำให้ได้รับลมเย็น ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเต็ม ๆ รวมถึงสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย เหมาะสำหรับการนัดเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่มาทานอาหารร่วมกัน เพราะทางร้านมีที่นั่งรองรับจำนวน มาก ส่วนเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ยำยอดมะพร้าว, กุ้งผัดยอดมะพร้าวขี้เมา, น้ำตกไก่กรอบ, โรตีทอดมันกุ้ง, ปลากะพงสองใจ และ มึกทอดซ้อสวาซาบิ เป็นต้น 

         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.
        
 ที่อยู่ : 396/8 ซ.วังหลัง อาคารท่าน้ำศิริราช ถ.อรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
        
 โทรศัพท์ : 0 2866 8745,0 2866 8845
        
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก สุ่ม 4 สุ่ม 5
 

         รีวิว 
         @@@ พาชิมย่านวังหลังครับ @@@ 
         <รีวิว> ชวนไปนั่งกินชิล ๆ ที่ ร้านสุ่ม 4 สุ่ม 5-วังหลัง (ท่าน้ำศิริราช)


          เรียกได้ว่าแต่ละร้านอาหารริมน้ำที่เราคัดสรรมาแนะนำกันนั้น คงโดนใจกันบ้างล่ะ เพราะแต่ละร้านก็มีบรรยากาศดี โรแมนติก และตกแต่งในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เอาเป็นว่าเพื่อน ๆ ชอบร้านแนวไหนก็แวะเวียนไปชิมกันได้นะคะ