Pages

Long Live The king

Long Live The king

March 20, 2015

เธียรรุจ ธรณวิกรัย”อัจฉริยะไอทีสู่ผู้ประกอบการหน้าใหม่

เธียรรุจ ธรณวิกรัย”อัจฉริยะไอทีสู่ผู้ประกอบการหน้าใหม่

โดย : 
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/510723#sthash.7sPAm8qI.dpuf


Beam Toranavikrai

เขาคืออัจฉริยะไอทีที่ทำเงินได้ตั้งแต่เรียนมัธยมสั่งสมความรู้ด้านอสังหาฯจนมาเป็นเจ้าของเว็บไซต์Think of living ที่ทำรายได้อย่างงดงามในวันนี้ - See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/510723#sthash.7sPAm8qI.dpuf


ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ได้นั่งพูดคุยกับ “บีม-เธียรรุจ ธรณวิกรัย”
ราว 6 ปี ก่อนหน้านี้ เขาคือหนึ่งในนักเขียนออนไลน์ฝีมือขั้นเทพ เจ้าของนามปากกา “มือเดียวค้ำฟ้า” เบื้องหลังนวนิยายแฟนตาซีผสมกำลังภายใน จากเว็บไซต์เด็กดี “ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน” (The Legend of El) ที่ฮอตฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนได้รับการตีพิมพ์และติดอันดับหนังสือขายดีไปตามคาด โดยมีซี่รีย์ออกมามากถึง 11 เล่ม
การพบกันครั้งที่สอง คนหนุ่มในวัย 30 ปี กลายเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว เขาคือ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซด์ Think of living บริษัท คิดเรื่องอยู่ จำกัด โดยเขาเริ่มฝันเล็กๆ นี้มาได้ประมาณสองปีแล้ว
“ผมเปิดเว็บไซต์มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 และจดทะเบียนบริษัทเมื่อตอนต้นปี 2555” เธียรรุจ อัพเดทสถานะเขาไม่ได้ทำให้ใครแปลกใจนักที่ยังคงจับธุรกิจไอที เพราะคลุกคลีอยู่กับอินเตอร์เน็ตและรู้จักทำเงินกับมันมาตั้งแต่ยังเรียนมัธยมด้วยซ้ำ
ยุคดอทคอมกำลังบูม เธียรรุจก็เหมือนเด็กในยุคนั้น ที่สนุกกับการได้ลองทำเว็บไซต์ ด้วยความสนใจและความชอบ ผลงานของเธียรรุจคือเว็บไซต์ข่าวที่ชื่อ “โอ้โฮเว็บ” (OHOWEB) ซึ่งเกิดมาพร้อมๆ กับ เด็กดีดอทคอม เพื่อนรุ่นเดียวกับเขา
ยุคดอทคอมกำลังหอมหวาน เริ่มมีการซื้อขายเว็บไซต์กันเกิดขึ้น และโอ้โฮเว็บ ก็ไปเข้าตากลุ่มชินคอร์ป จนถูกซื้อไปในที่สุด แม้ไม่ใช่เม็ดเงินมากมาย แต่ที่ได้มาเต็มๆ ก็คือความภาคภูมิใจของเด็กหนุ่มในตอนนั้น
หลังจบมัธยมปลายที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก็เข้าศึกษาต่อในคณะ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้ทำโปรเจค อย่าง แอพลิเคชั่น และซอฟแวร์ในมือถือ ในยุคที่สมาร์ทโฟนยังไม่มีใครพูดถึงด้วยซ้ำ และมีโอกาสพัฒนาเกมออนไลน์รวมกับเพื่อนๆ จนถูกวาล์ว (Valve) บริษัทพัฒนาเกมของโลกซื้อไลเซ่นไป
“ผมอาศัยหาความรู้เอง ซึ่งข้อมูลพวกนี้อยู่ในอินเตอร์เน็ตเต็มไปหมด ก็แค่ทำขึ้นมาด้วยความสนใจ การหาเงินได้ไม่ใช่ประเด็นในตอนนั้น แต่สิ่งสำคัญคือ เราได้สร้างนวัตกรรมขึ้นมา” เขาบอกเล่าถึงความท้าทาย
หลังเรียนจบปริญญาโท MBA ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เธียรรุจ มีโอกาสช่วยงาน "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" เจ้าพ่อพฤกษาเรียลเอสเตท อยู่ประมาณ 2 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจึงไม่เพียงความรู้ด้านไอที เติมเต็มความพร้อมเป็นผู้ประกอบการของเขา
“ผมมีพื้นฐานทางด้านไอที เคยเขียนหนังสือและเขียนบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มาก่อน เข้าใจการตลาดและมีพื้นฐานด้านอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่หุ้นส่วน คุณสุเชฏฐ์ ฤทธีภมร ก็มาจากงานด้านการตลาด และเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วน วิทยา อภิรักษ์วิริยะ เพื่อนสมัยเรียนก็เป็นนักเทคโนโลยี เลยรวมจุดแข็งของแต่ละคนมาเริ่มต้นธุรกิจ”
กลายเป็นที่มาของสื่ออสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ “Think of living” ซึ่งใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักหมื่นบาท เพราะต้นทุนสำคัญก็คือพลังสมองของพวกเขา เมื่อประสบการณ์ มาเจอกับทักษะที่ทุกคนมี ทำให้เว็บไซต์คิดเรื่องอยู่ได้เนื้อหาที่ ชัดเจน และ ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ได้อย่างแท้จริง
“เราเชื่อว่าผู้บริโภคที่จะซื้อบ้านไม่มีความรู้ หรือรู้น้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพท์ ซึ่งข้อมูลหลายๆ อย่าง ค่อนข้างปิด ขณะที่คนยุคใหม่มีเวลาลดลง วันๆ ก็ทำแต่งาน แต่ก็ยังต้องการที่อยู่อาศัย หน้าที่ของเราคือ ลงพื้นที่เพื่อไปสำรวจ และให้ข้อมูลลงลึกทุกเรื่อง เขียนบทวิเคราะห์เป็นร้อยหน้า พร้อมรูปอีกกว่า 100 รูป ในแต่ละโครงการ”
รายละเอียดแน่นปึกชนิดที่ว่าไม่ต่างจากวอคอินเข้าไปดูโครงการด้วยตัวเอง ด้วยข้อเท็จจริงทั้งบวกและลบ
การใส่ใจทุกรายละเอียด และพยายามรักษาความน่าเชื่อถือของเนื้อหา ด้วยจุดยืนอย่างที่ไม่ให้ใครมาโพสต์ขายของในเว็บ ไม่มีการค้า เก็งกำไร ไม่ทำกิจกรรมกับค่ายใดค่ายหนึ่ง เพื่อให้ข้อมูลที่ไหลอยู่ในเว็บไซต์ เป็นข้อมูลที่ดี เชื่อถือได้เน้นขายบทวิเคราะห์ ที่ให้ความรู้ไปใช้งานได้จริง รวมถึงมีการเปิดเว็บบอร์ดเพื่อให้สมาชิกได้สนทนาแลกเปลี่ยน เป็นสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้เรื่องบ้านและคอนโดมิเนียมอย่างแท้จริง
ทำให้กลุ่มเป้าหมายขยับไปไกล ทั้งลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัย เจ้าของโครงการ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนขายโครงการ ตลอดจนกลุ่มนักลงทุน สามารถเข้ามาศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจได้อย่างเต็มที่
ปัจจุบันมีผู้เข้าชมเดือนละ 5 แสนราย มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1.5 แสนคน ในเวลาเพียง 2 ปี!
สมัยเด็กอาจทำงานเพื่อท้าทายตัวเอง แต่เมื่อต้องมาทำธุรกิจจริงๆ จังๆ ก็ต้องหาความชัดเจนเรื่อง “รายได้” เธียรรุจ อธิบายโมเดลสร้างเงิน แบบ Think of living ที่มาจากการขายพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนหลักแสนบาท ขึ้นกับตำแหน่ง นอกจากนั้น ยังมีรายการทีวีออนไลน์ “คิดเพื่ออยู่” พาไปชมแต่ละโครงการ ซึ่งเจ้าของโครงการจะต้องจ่ายค่าการผลิตโดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นตอน ตอนละกว่าแสนบาท แลกกับพื้นที่ในเว็บไซต์สำหรับถ่ายทอดรายการ
“รายการเรามีคนดูอยู่ที่ 1 หมื่นรายต่อตอน ซึ่งโดยปกติแล้ว โครงการใหม่ๆ ในแต่ละสัปดาห์จะมีคนวอคอินไปดูแค่ 50 ราย ทั้งปีก็แค่ 2,500 ราย แต่การทำวิดีโอหนึ่งครั้งมีผู้ชมเป็นหมื่นรายแล้ว ซึ่งเขาอาจต้องใช้เวลาถึง 4 ปีกว่าจะได้เท่านี้”
อีกช่องทางสร้างเงิน คือ หนังสือ แต่เธียรรุจยอมรับว่าไม่ได้หวังรายได้จากช่องทางนี้ ทว่ามองเป็นช่องทางที่จะให้ความรู้กับผู้คน รวมถึงเปิดโอกาสให้เรื่องราวเหล่านี้ เข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้น ไม่ใช่แค่คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเท่านั้น
โมเดลสร้างรายได้ตอบแทนพวกเขาด้วยอะไรบ้าง เขาบอกว่า รายได้ปีแรกอยู่ที่ประมาณ 4 แสนบาท เพราะดันทำออกมาในช่วงน้ำท่วมพอดี ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เรียกว่ายกเลิกโฆษณากันถ้วนหน้า แต่เมื่อทุกอย่างฟื้นคืนมา โอกาสธุรกิจก็กลับคืน ซึ่งเขาคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีรายได้แตะที่ 20 ล้านบาท!
“เวลา 2 ปี กับรายได้ 20 ล้านบาท ผมว่าก็ไม่ได้เยอะนะ เพราะเว็บไซต์ดังๆ เขาทำได้เยอะกว่านี้มาก ถ้าเป็นในอเมริกา อาจไปถึง 2,000 ล้านบาทได้ไม่ยาก เพราะตลาดบ้านเขาใหญ่กว่าเรามาก”
เปิดเว็บไซต์แรกตอนอายุ 15 ปี แม้เว็บไซต์ที่สองจะเปิดมาได้ไม่นาน แต่เขาก็ยอมรับว่ามีเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในต่างประเทศมาจีบๆ อยู่บ้าง ทว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
“ผมไม่เสียดายนะ ถ้าธุรกิจที่สร้างขึ้นจะตกไปเป็นของคนอื่น มองว่าถึงจุดนั้น ผมคงมีอะไรอย่างอื่นทำแล้ว เพราะถ้ายังไม่มี ก็คงไม่ปล่อย ทำธุรกิจตอนมัธยมกับตอนนี้ ไม่เหมือนกัน เด็กๆ ทำเพราะอยากรู้ แต่พอโตขึ้นผมก็รู้ว่าการที่จะทำอะไรขึ้นมาสักอย่าง ต้องรู้จักเติมเต็มความต้องการของสังคมด้วย นั่นคือต้องให้เกิดประโยชน์ พอมีประโยชน์เดี๋ยวเงินก็มาเอง” เขาสะท้อนความคิดที่โตขึ้นตามวัย
หลายอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต เธียรรุจ บอกวิธีคิดในการทำงานของเขา สั้นๆ แค่ “ทำให้เสร็จ”และ “อย่าคิดนาน”
“หลายๆ อย่างเราทำไปเพราะว่ายังเป็นพื้นที่ที่ยังไม่รู้ พอไม่รู้ ก็อยากรู้ในสิ่งที่ทำ อย่างธุรกิจจะเป็นอย่างไร จะไปค้นพบอะไรตอนไหน อยากรู้ ก็แค่ทำไป ทำให้มันเสร็จ ขอแค่ให้เริ่มทำ อย่าเพิ่งคิดนาน ความคิดไม่มีประโยชน์ ถ้าได้ทำถึงจะมีประโยชน์ แค่คิดไม่มีค่า ได้ทำถึงมีค่า ทำไปก่อน มีปัญหาค่อยแก้ไข ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นแค่โปรเจกในฝัน ไม่มีทางเป็นจริงได้”
ก็แค่เดินหน้าไป ลงมือทำให้เสร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จะมาเยือนเข้าสักวัน
‘”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
Key to success
สู่เส้นทางความสำเร็จ “เธียรรุจ ธรณวิกรัย”
๐ เริ่มด้วยความสนใจและความชอบ
๐ ท้าทายตัวเองด้วยสิ่งใหม่ๆ
๐ อย่าแค่คิด แต่ต้องลงมือทำให้สำเร็จ
๐ ใช้จุดแข็งมาตั้งต้นธุรกิจ
๐ ทำธุรกิจต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคม แล้วเงินจะมาเอง

- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/510723#sthash.7sPAm8qI.dpuf


Tags : บีม-เธียรรุจ ธรณวิกรัย,Think of living,บริษัท คิดเรื่องอยู่ จำกัด - See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/510723#sthash.7sPAm8qI.dpuf