Pages

Long Live The king

Long Live The king

February 20, 2012

สร้างบรรยากาศให้รักกันไปนานๆ

สร้างบรรยากาศให้รักกันไปนานๆ เจอคำถามอยู่เรื่อยล่ะว่า
คู่รักจะรักกันได้นานแค่ไหน? เพราะสมัยนี้เห็นหย่ากันปาวๆ
และเลิกกันได้ทุกวี่ทุกวัน แหมถ้าขืนถามลอยๆโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลยแบบนี้
ใครจะไปฟันธงได้ เข้าใจว่า
ผู้ถามคงอยากจะพูดเปรยๆขึ้นมาลอยๆในเชิงแสดงความคิดเห็นมากกว่า เพราะเอาเข้าจริง
ของแบบนี้ (ที่จะรักกันได้นานหรือไม่) ก็เป็นเรื่องส่วนตัวและหัวใจของคน 2
คนที่คู่ใครคู่เค้านั่นแหละที่รู้กันเองมากที่สุด ว่าจะอยู่กันได้นานแค่ไหน

นี่ได้ยินข่าวของสาวสวยอย่างคิม คาร์เดเชียน
สาวสังคมและดาราในรายการเรียลลิตี้ทีวีของอเมริกา
ที่จู่ๆเธอก็ประกาศออกมาซะดังก้องไปทั่วปฐพีว่า ขอหย่าจากสามีนักบาสเกตบอล
หลังจากแต่งงานมาได้เพียง 72 วัน หรือ 2 เดือนกว่าเท่านั้น ก็เออเนอะ
อะไรจะเลิกกันเร็วปานนั้น ทำไมไม่แต่งกันแค่เดือนเดียวแล้วเลิกเลยล่ะ แหมรอตั้ง 2
เดือนกว่าแน่ะ...แค่แซวกันเล่นๆ เพราะใจจริงแล้ว อยากให้คู่นี้รักกันไปนานๆมากกว่า

ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครล่วงรู้ข้อเท็จจริงของทั้งคู่หรอกว่า
เพราะอะไรถึงได้เลิกกันเร็วนัก ขณะที่ฝ่ายชายหรือสามีของหนูคิม “คริส ฮัมฟรีย์”
ซึ่งอายุน้อยกว่าภรรยา (คริส 26 ส่วนคิม 31 ปี) ก็พูดปาวๆว่า ไม่เข้าใจ๋
ไม่เข้าใจว่า ภรรยาทำแบบนี้ได้อย่างไร และยืนยันว่า
ที่ผ่านมาเขาพยายามเป็นสามีอย่างดีที่สุดแล้ว

แต่...แต่ มีผู้ไปขุดคุ้ยเบื้องลึกในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกมาจนได้ ว่ากันว่า
สาเหตุที่คิมรวบรัดผลักไส เร่งรีบขอหย่านั้น มีมูลมาจากการที่ตอนนี้ฝ่ายชายไร้งานทำ
และเขากลับใช้เงินของฝ่ายหญิงอย่างสนุกมือ
จึงทำให้เธอกับครอบครัวในตระกูลของเธอเองทนไม่ไหว จึงรีบชิงเลิกกันไปซะเลย

แต่ฟังหูไว้หู มีข่าวอีกกระแสหนึ่งบอกว่า การแต่งงานของทั้งคู่
อาจเป็นเรื่องลวงโลกมาตั้งแต่ต้นก็ได้ จึงมีข่าวลือว่า
เธอแต่งงานเพื่อให้ตัวเองเป็นข่าวอยู่ในกระแสมากกว่า
คู่นี้ไม่ได้รักกันจริงหรอก...เอ้าเป็นงั้นไป

เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ที่จริงเพียงอยากบอกแค่ว่า คู่รักคู่ไหนจะอยู่กันได้นานเพียงใด
ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง หลายๆด้าน
แต่ที่แน่ๆอย่าดันไปมีปัญหาทางการเงินขึ้นมาละกัน
ไม่งั้นคู่ไหนคู่นั้นก็บรรลัยทุกที

ว่าแล้ว มาเชียร์ให้ทุกคู่เลิฟกันไปนานๆดีกว่า ส่วนเรื่องน้ำท่วมก็ไม่อยากจะพูดแล้ว
เพราะเซ็ง อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้คนเรามีความอดทนเหลือน้อยเต็มที
แล้วไม่ใช่ว่าเหลือความอดทนด้านความรักน้อยลงเพียงอย่างเดียวซะที่ไหน
ความอดทนในด้านอื่นๆก็เหลือน้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องการจราจรนี่เห็นได้ชัด
โอ้โห ขับแข่งกัน ขับแซงกัน และขับไปแย่งแซงคิวกันให้มั่วไปหมด ฉะนั้น
เรื่องความอดทนในชีวิตคู่นั้นสำคัญ ควรมีไว้บ้าง ไม่ใช่ไม่มีซะเลย
ไม่งั้นจะยิ่งเลิกกันง่ายเข้าไปใหญ่

เอางี้ไหม ถ้าคู่รักทั้งคู่ตั้งใจว่าจะรักกันให้นานๆซะอย่าง โดยที่ทั้ง 2
ฝ่ายยังไม่ถอดใจจากกันละก็ คนเราเวลาอยู่ด้วยกันก็ควรสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ด้วยสิ
ไม่งั้นจะหมดรักกันเร็ว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เช่น...1.หากอยู่คนละที่
ก็ควรโทรศัพท์หาดาร์ลิ่งกันบ้าง

ยกเว้นไม่สามารถติดต่อกันได้จริงๆ ก็คงได้แต่ส่งความคิดถึงไปถึงกันเท่านั้น
แต่ในเมื่อโลกนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์
ที่เต็มไปด้วยความทันสมัยไฮเทคไปซะหมดแล้วอย่างนี้ การสื่อสารถึงกันทางโทรศัพท์
จึงไม่น่าจะมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคแต่อย่างใด งั้น...ทำเลยท่าน
ถ้าสามารถโทร.หากันได้ แค่ตัวห่างกันเพียงช่วงเวลาไปทำงานทำการก็เถอะ
ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาห่างกันเพราะไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศหรอก
งัดโทรศัพท์ออกมาหมุนหากันได้เลย เพราะการพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะ ถามสารทุกข์สุกดิบ
หรือกระเซ้าเหย้าแหย่กัน ช่วยสร้างบรรยากาศให้รักยืนยงนะจะบอกให้
ส่วนคู่ที่ไม่พูดคุยกัน ทำเป็นแอ็กหรือมีทิฐินั้น น้อยมากที่จะอยู่กันยืด

2.ยิ้มให้กันบ่อยๆ

อย่างก่อนที่ทั้งคู่จะออกไปทำงาน ก็ควรทักทายกันหน่อย ซึ่งหากไม่ทักกันด้วยคำพูด
จะอาศัยรอยยิ้มก็ได้
แค่ยิ้มให้เขาหรือเธอครั้งนึงคงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงหรอกนะ
ท่านว่ารอยยิ้มนั้น นอกจากจะทำให้ผู้ได้รับรู้สึกสดชื่น รู้สึกเป็นมิตร
และรู้สึกว่ามีมิตรไมตรีแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้แจ่มใสด้วย ฉะนั้น จงยิ้มให้
“คนที่คุณรัก” เข้าเถอะ แล้วรับรองจะช่วยทำให้รักคราวนี้อยู่ได้นานขึ้น
แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นละก็ น่าจะหัวเราะด้วยกันซะเลยก็จะเยี่ยมมากๆ
หาเรื่องสนุกๆมาคุยกันซะ

และขอบอกเลยว่า ผู้ที่ชอบเก็บงำความรู้สึกส่วนตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นรักใคร,
ชอบใครหรือเกลียดใคร มักมีชีวิตคู่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ซึ่งการอยู่ด้วยกันนี่
ถ้าไม่แสดงความรู้สึกออกมาให้รู้กันบ้างว่า รักนะจุ๊บ จุ๊บ
หรือแสดงความเห็นกันบ้างว่า ชอบที่เธอใส่เสื้อตัวนี้นะ เพราะเข้ากับเธอดี
อะไรแบบนี้ ถ้าเป็นคนเปิดเผยความรู้สึกละก็ จะทำให้รักคราวนี้ยืนยาว
ตรงข้ามกับคนที่มีอะไรก็เก็บไว้ในใจ อยู่ด้วยแล้วลำบากแฮะ

3.ทำสิ่งที่แฟนชอบให้เขาหรือเธอ ไม่ต้องบ่อย
แค่สัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้งก็ได้

เช่น ถ้ารู้ว่าแฟนเราชอบไปเที่ยวสวนสนุกเหลือเกิน เพราะที่เป็นแฟนกันมาได้
ก็เพราะความรักสนุกของเขานี่แหละ แต่เอ...ทำไม อยู่ๆกันไป
ปรากฏว่าเสียงหัวเราะของเรามันเหือดแห้งไปไหนซะแล้วก็ไม่รู้ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า
เขาเคยชอบไปเที่ยวสวนสนุกนี่นา คุณก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการพาเขาไปที่นั่นซะเลยสิ
ได้ทั้งรำลึกถึงความหลัง
แล้วยังจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วย
หรือถ้าชอบทำอย่างอื่น  แบบรู้ว่าเขาชอบไปออกกำลังกายด้วยการวิ่งตามสวนสาธารณะ
แล้วคุณไม่เคยไปด้วยเลย เอ้า ทีนี้คงต้องลองไปวิ่งเป็นเพื่อนเขาบ้างแล้ว หาไว้เลย
รองเท้าสำหรับทั้งวิ่งทั้งเดิน ส่วนรองเท้าบูตคงไม่ต้องหา
เพราะใส่ลุยน้ำกันมาแล้วใช่ม้า

4.เสนอที่จะทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้กัน

ถ้าเขาจำเป็นต้องไปรับผ้าที่ส่งซักเป็นรายเดือนไว้ที่ร้าน แต่เผอิญไปรับไม่ได้
หรือไปไม่ทัน หรือติดธุระก็แล้วแต่ ถ้าคุณรู้ก็รีบอาสาที่จะช่วยเขาซะเลยสิ
ไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยปากไหว้วานขอให้ไปแทนหรอก แบบนี้จะน่ารักกว่านะ
หรือถ้าคุณรู้ว่าแฟนชอบอาบน้ำอุ่น
คุณก็ถลาเข้าไปเตรียมน้ำไว้ให้เขาอาบบ้างเป็นบางวันสิ ถ้าทั้ง 2
ฝ่ายต่างก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้กันอย่างนี้ แล้วมีรึที่จะเลิกกันเร็ว
มีแต่จะอยากอยู่ด้วยนานๆมากกว่า

สุดท้าย ฝากไว้ว่า ให้คอยบอกกันบ่อยๆก็ดีนะว่า
ต่างฝ่ายต่างชอบในตัวตนของอีกฝ่ายที่ตรงไหน? เช่น ฉันชอบที่คุณเป็นคนใจดี ก็บอกไป
ย้ำอย่างนี้เรื่อยๆ ย่อมทำให้รักมั่นคง ไชโย.



ไทยรัฐออนไลน์
  โดย เมอร์ลิน

20/11/2555