ทำไงดีหากมีแฟนเป็นหนุ่มขี้หลี ? เคยสงสัยไหมว่า
ทำไมผู้หญิงบางคนถึงอยากไปทำศัลยกรรมเสริมทรวงอกกันเหลือเกิน?
มันมีผลต่อการสร้างแรงดึงดูดให้เพศตรงข้ามเข้าหาหรือไง?
จึงทำให้พวกเธอตัดสินใจพึ่งการทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อให้ตัวเองดูอึ๋มขึ้น
เนื่องจากเชื่อว่าการทำเช่นนี้ (มีหน้าอกบิ๊กไซส์) จะเป็นที่ต้องตา
ต้องใจของชายหนุ่ม
ซึ่งคำตอบน่าจะเดากันได้ว่า ก็แน่ละสิ ที่ผู้หญิงพยายามทำงานเก็บหอมรอมริบ
แถมยังยอมเจ็บตัวไปเสริมซิลิโคน บางทีก็ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจริงๆ
เพราะเชื่อว่าผู้ชายจะสังเกตสังกาและสะดุดตาผู้หญิงในแวบแรกก็ตรงหน้าอกของเธอนั่นแหละ
แต่ในกรณีของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว การไปเสริมหน้าอกเพราะอยากให้แฟนรัก
แฟนหลงมากกว่าเดิม หรือรำคาญที่ถูกแฟนหนุ่มพูดมากเรื่องที่เธอหน้าอกเล็กก็ได้
จึงเกิดแรงฮึด ยอมเสียสตางค์เสียเวลาไปทำศัลยกรรมให้เขาเลิกบ่น
และจะได้ป้องกันไม่ให้ฝ่ายชายหาข้ออ้างไปมีอีหนูด้วย
นอกจากนี้ ผู้หญิงบางคนยังยอมรับว่า การมีหน้าอกไม่เล็กเกินไป
จนไม่ถูกล้อว่าเป็นสาวอกไข่ดาว แต่มีขนาดที่พอเหมาะพอควรนั้น
ช่วยทำให้พวกเธอ...มีความสุขและมั่นใจมากขึ้น เพราะเชื่อว่าตัวเองสวย
“ความรู้สึกว่าสวยขึ้นยังแบ่งเป็น 2 ระดับด้วยนะ” คุณปู
สาวที่เข้าใจความรู้สึกของเพศเดียวกันให้ความเห็นต่อไปว่า “ผู้หญิงเนี่ยพารานอยด์
(ไม่สบายใจ) นะ ถ้าทรวงอกเธอเล็กเกินไป ดังนั้น
ถ้าเธออยากหน้าอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมละก็
เชื่อได้ว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อเสริมความมั่นใจของตัวเพียงฝ่ายเดียว
แต่ทำเพื่อคนที่เธอรักด้วย เรียกว่าสวยเพื่อคุณ ผู้ชายของเธอก็ได้
เพราะพวกผู้ชายน่ะชอบอวดเรื่องแฟนว่าของใครสวยกว่ากันจะตาย”
บอกตามตรงการที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับหน้าอกหน้าใจ
ก็ไม่ต่างกับการที่ผู้ชายให้ความสำคัญกับอาวุธประจำกายของตัวเองนั่นแหละ
ขืนของใครสั้นและเล็กก็จะรู้สึกมีปมทางใจ และดิ้นรนอยากใหญ่เช่นกัน
ฉะนั้น ขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบางคน แต่ไม่ใช่ความสุขทั้งหมดของชีวิต
เนื่องจากหลายคู่ยอมรับว่า ความรักและความผูกพันต่างหากที่สำคัญกว่า
ส่วนสังขารนั้นคือความไม่เที่ยง
อย่าลืมว่า คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยกิริยาใช่ตาหวาน!
โอเคล่ะ เมื่อคนเราประสบพบเจอกันครั้งแรก ย่อมสนใจกันที่รูปร่างหน้าตาก่อนอย่างอื่น
แต่เวลาจะเลือกคบใครอย่างจริงจัง คงไม่คำนึงถึงหน้าตาอย่างเดียวแล้ว
แต่อยากศึกษาไปถึงจิตใจลึกๆลงไปกว่านั้นด้วย
ทีนี้ปัญหาน่ารำคาญใจ โดยเฉพาะผู้หญิงเวลามีแฟน มักพบว่าแฟนของตัวชอบมองคนอื่น
หรือชอบชมคนอื่นบ่อยๆน่ะสิ แต่พอถามขึ้นมา อู้ยเขางี้ ชอบปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง
ทั้งๆที่เห็นกันตำตาขนาดนั้น แต่ยังปากแข็งอยู่ได้ว่าไม่ใช่
หรือไม่ก็หัวเราะกลบเกลื่อนไปเลย
อันที่จริงหากผู้ชายมองผู้หญิงอื่นบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
ใครไม่อยากมองสาวอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า เซ็กซี่กว่าแฟนตัวเองล่ะ
แต่ชายก็มักขี้จุ๊
อยู่ได้ว่าไม่ได้มอง ไม่ได้ชม ไม่ได้สนกันทั้งปี
แบบนี้ถือว่าเป็นการโกหกซึ่งๆหน้า โอ้โห ขนาดแฟนสาวจับได้ไล่ทันก็ยังปฏิเสธอีก
ลักษณะนี้แหละที่ทำให้ผู้หญิงไม่ชอบ แถมสาวบางคนอาจคิดมากเตลิดไปไกลว่า แหม
เรื่องแค่นี้ก็ไม่ซื่อสัตย์กันซะแล้ว
แต่เอาน่ะ ฝ่ายหญิงที่มีแฟนเป็นเช่นนี้ก็อย่าคิดฟุ้งซ่านเกินไป และเชื่อว่า
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ถือสาหาความกับแฟนหนุ่มในกรณีนี้มากมายนัก
เพราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ขนาดที่ทำให้ต้องเลิกกันสักหน่อย
อย่างมากวิธีการลงโทษก็อาจผลักเขาแบบรู้ทัน ตบเขา (เบาๆ) หรืองอนใส่ ก็จบ
ด้านฝ่ายชายก็ควรตามไปหาวิธีง้องอนกันต่อ เพราะถ้าไม่ง้อจะยิ่งผิดสังเกต!
เอางี้ วิธีรับมือกับคำโกหกของผู้ชายที่ส่ออาการขี้หลีต่อหน้าแฟนสาวน่ะเหรอ
พวกไม่ยอมหยุดแจกขนมจีบทั้งที่มีแฟนแล้วนี่น่าตีจัง อย่างไรก็ตาม เห็นที
คุณสุภาพสตรีคงต้องพิจารณากันเป็นเคสๆไป เช่น... 1.ถ้าเขาแค่มีอาการหน้ามืดตามัว
ถูกกิเลสครอบงำเพียงชั่วคราว แล้วก็เพียงหันไปมองคนโน้นคนนี้
แบบให้ความสนใจเพียงแค่มอง ไม่ได้อยากเข้าไปรู้จักมักจี่
หรือถลาเข้าไปจีบสาวคนนั้นละก็ ปล่อยเขาไปเถอะ
บอกแล้วไงว่าอย่างมากก็ทำเป็นงอนเขาก็แล้วกัน
อย่าไปเก็บมาเป็นอารมณ์ให้ขุ่นเคืองใจจนเกินไป เดี๋ยวไม่สวยนะจะบอกให้
2.ถ้าเขาเอ่ยปากชมผู้หญิงอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า
และทรวดทรงองค์เอวดีกว่าก็ลองท้าเขาสิว่า ถ้าชอบก็ไปจีบหล่อนสิ...
ว้าย...แต่แค่พูดเล่นนะ ไม่ได้แนะให้ไปท้าจริง
แต่ถ้าใครจะทำจริงก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนงั้นถ้าเขาชมผู้หญิงอื่นได้
คุณก็ลองชมผู้ชายคนอื่นที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าเขาดูบ้างสิ ดูดิ เขาจะคิดอย่างไร?
งอนคุณ หรือไม่พอใจคุณไหม? หากเขาเป็น ก็อธิบายให้เขาฟังแล้วกันว่า
คุณก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วค่อยๆคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ
อย่าได้ถือคติยอมหักไม่ยอมงอเชียวนะ โถเรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย
3. หากเขาแสดงความสนใจในตัวผู้หญิงคนอื่น ชนิดอยากจีบเธอคนนั้นอย่างจริงจัง
แต่ยังทำเป็นไม่กล้า
หรือกลบเกลื่อนด้วยการเฉไฉละก็เชื่อว่าผู้หญิงที่มีแฟนแล้วทุกคนมีสัญชาตญาณที่ประเมินได้ด้วยตัวเองทั้งนั้นนะว่า
แฟนของคุณกู่ไม่กลับและถลำลึกไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว
เนื่องจากพวกเจ้าชู้มักเก็บอาการนี้ไม่ค่อยมิด จะมีแววตา, มีคำพูด,
มีอากัปกิริยาให้จับได้ไล่ทัน ซึ่งหากสาวใดรับได้กับความเจ้าชู้ของเขาก็แล้วไป
ตรงข้ามถ้ารับไม่ได้ เพราะส่อแววว่าเขาพยายามจีบเพื่อนของคุณ
ไอ้หยาขืนมักง่ายอยากได้มาก อุ๊ยต๊ายตาย แล้วฝ่ายหญิงจะทนไหวอีกหรือ?
เมอร์ลินไทยรัฐออนไลน์
โดย เมอร์ลิน
1 เมษายน 2555, 05:00 น.
ทำไมผู้หญิงบางคนถึงอยากไปทำศัลยกรรมเสริมทรวงอกกันเหลือเกิน?
มันมีผลต่อการสร้างแรงดึงดูดให้เพศตรงข้ามเข้าหาหรือไง?
จึงทำให้พวกเธอตัดสินใจพึ่งการทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อให้ตัวเองดูอึ๋มขึ้น
เนื่องจากเชื่อว่าการทำเช่นนี้ (มีหน้าอกบิ๊กไซส์) จะเป็นที่ต้องตา
ต้องใจของชายหนุ่ม
ซึ่งคำตอบน่าจะเดากันได้ว่า ก็แน่ละสิ ที่ผู้หญิงพยายามทำงานเก็บหอมรอมริบ
แถมยังยอมเจ็บตัวไปเสริมซิลิโคน บางทีก็ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจริงๆ
เพราะเชื่อว่าผู้ชายจะสังเกตสังกาและสะดุดตาผู้หญิงในแวบแรกก็ตรงหน้าอกของเธอนั่นแหละ
แต่ในกรณีของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว การไปเสริมหน้าอกเพราะอยากให้แฟนรัก
แฟนหลงมากกว่าเดิม หรือรำคาญที่ถูกแฟนหนุ่มพูดมากเรื่องที่เธอหน้าอกเล็กก็ได้
จึงเกิดแรงฮึด ยอมเสียสตางค์เสียเวลาไปทำศัลยกรรมให้เขาเลิกบ่น
และจะได้ป้องกันไม่ให้ฝ่ายชายหาข้ออ้างไปมีอีหนูด้วย
นอกจากนี้ ผู้หญิงบางคนยังยอมรับว่า การมีหน้าอกไม่เล็กเกินไป
จนไม่ถูกล้อว่าเป็นสาวอกไข่ดาว แต่มีขนาดที่พอเหมาะพอควรนั้น
ช่วยทำให้พวกเธอ...มีความสุขและมั่นใจมากขึ้น เพราะเชื่อว่าตัวเองสวย
“ความรู้สึกว่าสวยขึ้นยังแบ่งเป็น 2 ระดับด้วยนะ” คุณปู
สาวที่เข้าใจความรู้สึกของเพศเดียวกันให้ความเห็นต่อไปว่า “ผู้หญิงเนี่ยพารานอยด์
(ไม่สบายใจ) นะ ถ้าทรวงอกเธอเล็กเกินไป ดังนั้น
ถ้าเธออยากหน้าอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมละก็
เชื่อได้ว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อเสริมความมั่นใจของตัวเพียงฝ่ายเดียว
แต่ทำเพื่อคนที่เธอรักด้วย เรียกว่าสวยเพื่อคุณ ผู้ชายของเธอก็ได้
เพราะพวกผู้ชายน่ะชอบอวดเรื่องแฟนว่าของใครสวยกว่ากันจะตาย”
บอกตามตรงการที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับหน้าอกหน้าใจ
ก็ไม่ต่างกับการที่ผู้ชายให้ความสำคัญกับอาวุธประจำกายของตัวเองนั่นแหละ
ขืนของใครสั้นและเล็กก็จะรู้สึกมีปมทางใจ และดิ้นรนอยากใหญ่เช่นกัน
ฉะนั้น ขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบางคน แต่ไม่ใช่ความสุขทั้งหมดของชีวิต
เนื่องจากหลายคู่ยอมรับว่า ความรักและความผูกพันต่างหากที่สำคัญกว่า
ส่วนสังขารนั้นคือความไม่เที่ยง
อย่าลืมว่า คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยกิริยาใช่ตาหวาน!
โอเคล่ะ เมื่อคนเราประสบพบเจอกันครั้งแรก ย่อมสนใจกันที่รูปร่างหน้าตาก่อนอย่างอื่น
แต่เวลาจะเลือกคบใครอย่างจริงจัง คงไม่คำนึงถึงหน้าตาอย่างเดียวแล้ว
แต่อยากศึกษาไปถึงจิตใจลึกๆลงไปกว่านั้นด้วย
ทีนี้ปัญหาน่ารำคาญใจ โดยเฉพาะผู้หญิงเวลามีแฟน มักพบว่าแฟนของตัวชอบมองคนอื่น
หรือชอบชมคนอื่นบ่อยๆน่ะสิ แต่พอถามขึ้นมา อู้ยเขางี้ ชอบปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง
ทั้งๆที่เห็นกันตำตาขนาดนั้น แต่ยังปากแข็งอยู่ได้ว่าไม่ใช่
หรือไม่ก็หัวเราะกลบเกลื่อนไปเลย
อันที่จริงหากผู้ชายมองผู้หญิงอื่นบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
ใครไม่อยากมองสาวอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า เซ็กซี่กว่าแฟนตัวเองล่ะ
แต่ชายก็มักขี้จุ๊
อยู่ได้ว่าไม่ได้มอง ไม่ได้ชม ไม่ได้สนกันทั้งปี
แบบนี้ถือว่าเป็นการโกหกซึ่งๆหน้า โอ้โห ขนาดแฟนสาวจับได้ไล่ทันก็ยังปฏิเสธอีก
ลักษณะนี้แหละที่ทำให้ผู้หญิงไม่ชอบ แถมสาวบางคนอาจคิดมากเตลิดไปไกลว่า แหม
เรื่องแค่นี้ก็ไม่ซื่อสัตย์กันซะแล้ว
แต่เอาน่ะ ฝ่ายหญิงที่มีแฟนเป็นเช่นนี้ก็อย่าคิดฟุ้งซ่านเกินไป และเชื่อว่า
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ถือสาหาความกับแฟนหนุ่มในกรณีนี้มากมายนัก
เพราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ขนาดที่ทำให้ต้องเลิกกันสักหน่อย
อย่างมากวิธีการลงโทษก็อาจผลักเขาแบบรู้ทัน ตบเขา (เบาๆ) หรืองอนใส่ ก็จบ
ด้านฝ่ายชายก็ควรตามไปหาวิธีง้องอนกันต่อ เพราะถ้าไม่ง้อจะยิ่งผิดสังเกต!
เอางี้ วิธีรับมือกับคำโกหกของผู้ชายที่ส่ออาการขี้หลีต่อหน้าแฟนสาวน่ะเหรอ
พวกไม่ยอมหยุดแจกขนมจีบทั้งที่มีแฟนแล้วนี่น่าตีจัง อย่างไรก็ตาม เห็นที
คุณสุภาพสตรีคงต้องพิจารณากันเป็นเคสๆไป เช่น... 1.ถ้าเขาแค่มีอาการหน้ามืดตามัว
ถูกกิเลสครอบงำเพียงชั่วคราว แล้วก็เพียงหันไปมองคนโน้นคนนี้
แบบให้ความสนใจเพียงแค่มอง ไม่ได้อยากเข้าไปรู้จักมักจี่
หรือถลาเข้าไปจีบสาวคนนั้นละก็ ปล่อยเขาไปเถอะ
บอกแล้วไงว่าอย่างมากก็ทำเป็นงอนเขาก็แล้วกัน
อย่าไปเก็บมาเป็นอารมณ์ให้ขุ่นเคืองใจจนเกินไป เดี๋ยวไม่สวยนะจะบอกให้
2.ถ้าเขาเอ่ยปากชมผู้หญิงอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า
และทรวดทรงองค์เอวดีกว่าก็ลองท้าเขาสิว่า ถ้าชอบก็ไปจีบหล่อนสิ...
ว้าย...แต่แค่พูดเล่นนะ ไม่ได้แนะให้ไปท้าจริง
แต่ถ้าใครจะทำจริงก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนงั้นถ้าเขาชมผู้หญิงอื่นได้
คุณก็ลองชมผู้ชายคนอื่นที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าเขาดูบ้างสิ ดูดิ เขาจะคิดอย่างไร?
งอนคุณ หรือไม่พอใจคุณไหม? หากเขาเป็น ก็อธิบายให้เขาฟังแล้วกันว่า
คุณก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วค่อยๆคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ
อย่าได้ถือคติยอมหักไม่ยอมงอเชียวนะ โถเรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย
3. หากเขาแสดงความสนใจในตัวผู้หญิงคนอื่น ชนิดอยากจีบเธอคนนั้นอย่างจริงจัง
แต่ยังทำเป็นไม่กล้า
หรือกลบเกลื่อนด้วยการเฉไฉละก็เชื่อว่าผู้หญิงที่มีแฟนแล้วทุกคนมีสัญชาตญาณที่ประเมินได้ด้วยตัวเองทั้งนั้นนะว่า
แฟนของคุณกู่ไม่กลับและถลำลึกไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว
เนื่องจากพวกเจ้าชู้มักเก็บอาการนี้ไม่ค่อยมิด จะมีแววตา, มีคำพูด,
มีอากัปกิริยาให้จับได้ไล่ทัน ซึ่งหากสาวใดรับได้กับความเจ้าชู้ของเขาก็แล้วไป
ตรงข้ามถ้ารับไม่ได้ เพราะส่อแววว่าเขาพยายามจีบเพื่อนของคุณ
ไอ้หยาขืนมักง่ายอยากได้มาก อุ๊ยต๊ายตาย แล้วฝ่ายหญิงจะทนไหวอีกหรือ?
เมอร์ลินไทยรัฐออนไลน์
โดย เมอร์ลิน
1 เมษายน 2555, 05:00 น.