“ทุกครั้งที่ดื่มอย่าลืมคนปลูก”
สโลแกนที่ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ “พืชไทยเมืองเลย”
ใช้เป็นหัวใจสำคัญในการผลิตและจำหน่ายธัญพืช ไม่ว่าจะเป็นงาดำ ข้าวกล้อง ลูกเดือย
จมูกข้าวสาลี รำข้าวสาลี หรือแม้แต่กาแฟ ผสมโสม ที่ล้วนแล้วแต่การันตีด้วยความเป็น
ธัญพืชปลอดยาฆ่าแมลงและการขัดสี เพราะปลูกบนผืนแผ่นดินเมืองเลย
ด้วยมือของเกษตรกรเมืองเลย
เยาวมาลย์ อำนาจพิชิตไพรี หรือ แม้ว เจ้าของพืชไทยเมืองเลย เล่าให้ฟังว่า
ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความต้องการ ที่จะ “รักษา” ตัวเอง จากโรค
รูมาตอยด์ที่รุมเร้า
“กินยาอะไรก็แพ้หมด แพ้ทุกอย่าง ยิ่งกินยาก็ยิ่งป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยมาคิดว่า
เอาล่ะ...เราจะไม่กินยาแล้ว แต่จะหันมาดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ
จะเป็นอะไรแค่ไหนก็ช่าง แต่จะเลือกวิธีนี้”
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นานถึง 7 ปีเต็ม ที่เธอเปลี่ยนชีวิตตัวเองแบบ 360 องศา
ไม่กินเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่จะมีผลต่อสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ
กินแต่ธัญพืชและพืชพรรณธรรมชาติอย่างเดียว
“ทุกวันนี้ มนุษย์หันหลังให้ธรรมชาติ วิ่งตามเทคโนโลยี กินอาหาร ปรุงแต่ง
เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ร่างกาย ดูดซึมอาหารไม่ดี สะสมสารพิษเข้าไปในร่างกาย
ภูมิคุ้มกันก็อ่อนแอ พอเจ็บป่วยรุนแรง ก็หันไปพึ่งพายาเคมีอย่างเดียว ผลก็คือ ตับ
ไต ทำงานหนัก ร่างกาย จิตใจอ่อนแอ มันแย่ไปหมด”
งาดำ คือ ไฮไลต์ของธัญพืชที่เป็นตัวอย่างของการบำบัดโรค โดยเฉพาะโปรตีนในงาดำ
มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ชื่อ “เมธิ-โอนีน”
และมีสารพัดกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 6
ที่ช่วยลดคอเลสเทอรอลป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้หัวใจแข็งแรง
แถมด้วยธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี ฟอสฟอรัส ทองแดง แคลเซียม ที่สูงมากๆ
รวมทั้งวิตามิน บี 1, บี 3, บี 5 และบี 9 ด้วย
นี่คือ ความมหัศจรรย์อย่างมากๆของงาดำ ที่คุณแม้วบอกว่า ดื่มงาดำแล้วดี ดีมากๆ
จนต้องมาทำขาย สร้างโรงงานในบ้าน ส่งเสริมชาวบ้านให้ปลูก แล้วรับซื้อทั้งหมด
ที่สำคัญคือ ทุกผลิตภัณฑ์ ของที่นี่ ไม่มีการผสม ไม่ว่าจะเป็นนม หรือครีมเทียม
เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติล้วนๆ
เยาวมาลย์ อำนาจพิชิตไพรี
นอกจากตัว “งา” เองแล้ว น้ำมันงา ก็เป็นอีกอย่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ
ชาวอินเดียมีการอมน้ำมันงา ที่เรียกว่า Oil Pulling Therapy มานานเป็นร้อยปีแล้ว
โดยเชื่อว่า ในช่องปากและลำไส้ของคนเราเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียนับล้านๆตัว
ที่พร้อมจะกระโจนเข้าสู่กระแสเลือดของเราทันที
ทำให้เราป่วยด้วยโรคสารพัดตั้งแต่ไขข้ออักเสบไปจนถึงโรคหัวใจ
การ อมน้ำมันงา ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค
แต่ช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายในช่องปากและลำไส้
โดยใช้น้ำมันงาบริสุทธิ์ 1 ช้อนโต๊ะ อมไว้ในปากขณะที่ท้องว่าง
เคลื่อนน้ำมันไปทั่วปากประมาณ 15-20 นาที แล้วบ้วนทิ้ง บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด
แค่วันละ 1 ครั้ง คุณก็จะไม่ถูกแบคทีเรียร้ายคุกคาม ทำให้ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย
นอกจากงาดำแล้ว ธัญพืชอีกอย่างที่มีสรรพคุณไม่น้อยหน้ากัน ก็คือ “ลูกเดือย”
คุณแม้ว บอกว่า “วันไหนถ้ารู้สึกว่าสมดุลในร่างกายไม่ดี อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้น
สังเกตจากผิวหนังที่ร้อน และความรู้สึกไม่สบายตัว จะกินลูกเดือยเพื่อปรับสมดุล
เพราะเคยเห็นคนจีนใส่ลูกเดือยในซุปและอาหารหลายๆอย่าง กินมาเป็นร้อยเป็นพันปี
เวลาที่ร่างกายไม่สมดุล เขาจะส่งสัญญาณบอกเรา เมื่อเขาปรับสมดุลเองไม่ได้
เราก็ต้องช่วยปรับ ร่างกายของเรา ถ้าเราช่วยเขา เขาก็อยู่กับเรา”
ลูกเดือยมีวิตามินบี 1 มากกว่าข้าวกล้อง แถมยังมีสารโคเซนโนได (coxen-nolide)
ที่มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้องอกที่เรื้อรังมานาน
ซึ่งอาจจะรวมถึงมะเร็งด้วย
มีงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศยืนยันว่าลูกเดือยมีทั้งแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง
มีสารหล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้แก้ปวดข้อเรื้อรัง บำรุงม้ามและปอด ขับปัสสาวะ
บำรุงไต บำรุงเลือด ละลายไขมันและช่วยบำรุงผิวพรรณ
หนุ่มสาวที่อยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ร่างกายแข็งแรง
ถ้ากินลูกเดือยและธัญพืชอื่นๆแล้ว จะรู้เลยว่า ทุกอย่างดีขึ้น
ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมากินอาหารเป็นยา เดินหน้าเข้าหาธรรมชาติ
บนโลกใบนี้ ธัญพืชทุกชนิดเยียวยาโรคร้ายต่างๆได้
ถ้าคุณเชื่อ...เริ่มต้นวันนี้ และเดี๋ยวนี้เลย!ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
10 มีนาคม 2555