มีคนเคยพูดให้ได้ยินว่า ถ้ามนุษย์มีเซ็กซ์กันบ่อยๆ (ออกกำลังกันบนเตียง) มีส่วนช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้นะเอ้า ฟังดูก็น่าจะเป็นไปได้ แต่เอ๊ะ พอไปอ่านอีกบทความหนึ่ง กลับบอกตรงกันข้าม ว่า ยิ่งมีเซ็กซ์กันบ่อยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้หญิงนั่นแหละที่จะอ้วนท้วนสมบูรณ์ซะมากกว่า เพราะหลังจากการเอ็กเซอร์ไซส์ได้ออกกำลังวังชา ที่แหงล่ะ... มีการเผาผลาญแคลอรีก็จริง แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือจะทำให้หิว, กระหายและหันไปรับประทานอาหารเยอะขึ้นน่ะซี จึงเป็นที่มาของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
แต่ว่าไหมว่า สาวที่มีแฟนแล้ว โดยเฉพาะตอนเพิ่งรักหรือจีบกันใหม่ๆ เธอมักจะถูกแฟนหนุ่มชวนให้ทานนั่นทานนี่ ทานอะไรต่อมิอะไรสารพัด เพราะโห ช่วงที่เพิ่งจีบกันก็มักจะชวนกันไปทานข้าว ทานขนม ทานนม ทานน้ำ ทานกาแฟ และทานเค้กที่ร้านเบเกอรี่กันอยู่เรื่อย เนื่องจากอยากนัดเจอไง ก็แหมทนคิดถึงไม่ไหว จึงมักชวนกันไปทานข้าวบ่อยๆ แล้วถ้าเกิดฝ่ายหญิงบอกว่า ไม่กินด้วยหรอก... มันก็กระไรอยู่ จะให้ไปนั่งเฉยๆ ดูเขากินก็ประหลาดคน ส่วนฝ่ายชายน่ะไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องกินเป็นเรื่องสำคัญสุดยอดของเขาอยู่แล้ว
ดังนั้น ตอนแรกรักจึงอาจเป็นที่มาทำให้น้ำหนักของผู้หญิงเพิ่มขึ้นได้ง่ายที่ซู้ด อีกอย่างตอนจีบกัน ฝ่ายชายก็มักทุ่มเทให้สาวๆกันอยู่แล้ว อู้ย...เอาใจสารพัด เพราะอยากจะพิชิตใจสาวให้ได้จึงทุ่มไม่อั้น ฉะนั้น ถ้าสาวๆกำลังหมายตาอยากได้อะไร ก็ควรบอกเขาตอนนี้เลย เช่น เพชรนิลจินดา, บ้านพร้อมที่ดิน, รถสปอร์ตคันหรู...เอ้ย ไม่ใช่ ที่พูดไปเมื่อกี้น่ะพูดเล่น ใครจะไปเรียกร้องเอาของราคาแพงๆขนาดนั้น มันเว่อร์ไป
แค่ว่า อยากไปทานอะไร ที่ไหน? แล้วรับรอง เขาพาไปได้ แม้จะไกลแค่ไหนก็ตามดีกว่า
และเนื่องจากมีเสียงของสาวๆบ่นกันมากว่า ไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายเอาซะเลย เพราะมีวันนึง น้องปูพูดแซวแฟนของเธอว่า โถ... หัวไม่ล้านซะหน่อย แต่ใจน้อยซะแล้ว! ปูยืนยันว่า พูดแค่นี้จริงๆ แต่แฟนของเธอกลับงอนและไม่ยอมโทรศัพท์มาหาตั้งหลายวัน จนเธอเป็นฝ่ายโทร.ไปง้อโน่นแน่ะ ถึงได้ยอมพูดด้วย ปู บอกว่า จริงๆนะคะ ไม่ได้ชวนทะเลาะกันเรื่องอื่นเลย แค่พูดเรื่องหัวล้าน ไม่ล้านเท่าเนี้ยะ ทำไมต้องงอนกันด้วย “ผู้ชายก็งอนเป็นด้วยเนอะ” ...อ้าว แล้วไม่รู้เรอะว่า ผู้ชายก็งอนเป็นเหมือนกันน่ะซี
โดยทั่วไป คนเราจะไม่ค่อยซีเรียสกับคำพูดคำจาของใครๆก็จริงอยู่ แต่ถ้าเป็นคนที่ใกล้ชิดกันแล้ว คำพูดคำจาที่ใช้สื่อสารกันนี่สำคัญนักเชียว แต่เอ๊ะ ผู้ชายจะไม่ค่อยคิดอะไรหยุมหยิมนะ ทว่านี่คงเป็นคำพูดของแฟนสาวที่ไปจี้ใจดำเขาเข้าละมั้ง หนุ่มบางคนจึงไม่พอใจเอาได้
ว่ากันตามหลักจิตวิทยาละกัน ผู้ชายจำนวนมากจะให้ความสำคัญและสนใจ “ผมบนศีรษะ” ของเขานะ และสิ่งที่เขากลัวก็คือ การมีสภาพเป็นคนหัวเถิกหรือศีรษะล้านนั่นเอง แม้สมัยนี้หนุ่มบางคนจะนิยมโกนผม เพื่อให้ศีรษะล้านแบบจงใจ ดูอย่างแบรด พิตต์ ดาราฮอลลีวูดก็เคยตัดผมเกรียนติดหนังศีรษะ สมัยรับแสดงหนังเรื่อง มิสเตอร์ แอนด์ มิสซิส สมิธไงจำได้มะ แต่ด้วยความที่แบรด พิตต์เป็นคนหล่อขั้นเทพตัวพ่อ และมีสาวๆชอบกันตรึม เหตุนี้การมีผมน้อยของเขาจึงไม่ได้ทำให้เสียภาพลักษณ์แต่อย่างใด หนำซ้ำยังทำให้ตัวเองดูเก๋ไปอีกแบบซะด้วย ข้อดีของคนหล่อก็เป็นแบบนี้แหละ
ทว่า ผู้ชายหน้าตาธรรมดาหรือหน้าตางั้นๆจะไม่ค่อยอยากมีผมน้อยนะ บางคนแค่ผมเปลี่ยนสียังไม่ได้ ต้องไปย้อมเลย แถมรู้สึกเป็นกังวลว่าผมจะหลุดร่วงก่อนวัยอันควรจนส่งผลทำให้เซ็กซ์เสื่อมซะอีก!
มาทำความรู้จักกับผู้ชายในเดทแรกกันซะเลย เพราะคนสองคนจะชอบและรักกันหรือเปล่า ก็ต้องผ่านเดทแรกนี้ไปก่อนทั้งนั้นแหละ ต่างฝ่ายจึงจะรู้ว่า ควรคบกันต่อไปหรือไม่?ไงล่ะ
ดังนั้น 1.ถ้าเขาชวนสาวไปเดทด้วยการนัดกันไปเจอที่ผับหรือบาร์ ละก็...ท่าทางเขาจะขี้เมาแฮะ ถึงได้นัดที่นั่น เพราะปกติจะไม่ค่อยมีใครนัดกันไปเดทครั้งแรกในสถานที่แบบนี้ ยกเว้นแต่เจอกันในนั้นตั้งแต่แรก...ก็แล้วไป และเป็นไปได้มากซะด้วยที่หนุ่มสาวจะไปเจอแล้วทำความรู้จักกันตามผับ อ่ะ เพราะที่นี่มีคนมากหน้า หลายตาไปแสวงหาการพักผ่อนและความสนุกนี่นา ซึ่งถ้าเจอกันในผับก็ไม่เป็นไร คุยกันได้ จีบกันได้ แต่ดูให้ดีๆและถี่ถ้วนก่อนล่ะว่า คนที่เขาส่งตาหวานไปให้นั้นไม่มีเจ้าของมาด้วย เพราะมิฉะนั้น แทนที่จะได้รู้จักกันอาจจะโดนของแถมเป็นกำปั้นกลับมาแทนก็ได้
ถ้าคิดจะไปเดทกันละก็ น่าจะชวนกันไปนั่งร้านอาหารหรือร้านขายกาแฟมากกว่านะ เพราะพวกคุณจะได้มีสมาธิพูดคุยและทำความรู้จักกันด้วย ขณะที่ฝ่ายชายไม่ควรเมาแอ๋ตั้งแต่เดทแรก อู้ย...ถ้าส่ออาการติดเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้เห็นกำพืดกันตั้งแต่แรกแล้วละก็ ฝ่ายหญิงคงคิดหนักเหมือนกันนะว่าจะคบกับเขาดีไหม? แต่ถ้าเจอคนแบบเดียวกันแถมยังคอแข็งเหมือนกัน ก็โป๊ะเชะเลยดิ
2.ถ้าเขาถามคำถามแรกตั้งแต่เจอหน้ากันว่า คุณเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน?
แสดงว่า เป็นคนช่างสอดรู้ สอดเห็น...เอ้ย ช่างซักไซ้ไล่เลียงและอยากรู้เรื่องสำมะคัญของคนที่ออกเดทด้วยมากไปหน่อยนะ จะถามน่ะถามได้ แต่ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสมกันซะนิดนึง
โอ้โห...ถ้าเพิ่งรู้จักกันแต่พอเปิดปากจะพูดจาสานรักก็ถามเรื่องแฟนเก่ากันแล้วละก็ ระวังจะเจอคำถามเดียวกันนี้กลับไปถึงตัวเองนะเอ้า ถ้าพร้อมจะเปิดเผยก็ดีจ้า แต่ไม่สมควรถามเป็นคำถามแรกเท่านั้นแหละ อดใจรอไว้ถามทีหลังก็ได้นะตัวเอง เพราะไม่งั้นคนฟังจะรู้สึกว่า เรื่องแฟนเก่าของชั้นนั้นมันสลักสำคัญกับการจะเลือกคบคนมาเป็นแฟนของเขาหรือไง? ถึงได้อยากรู้นัก แหมใครไม่เคยมีแฟนมาก่อนละยะ
เพราะมารยาทของผู้ที่ออกเดทแรก ไม่ควรทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจกับคำถามที่เจาะลึกเกินไปน่ะซี
3.ถ้าเขาพูดชมคู่เดทบ่อยครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะถ้าไม่ชอบก็คงไม่อยากออกเดทด้วย แต่เขาจะชื่นชมสาวเจ้าด้วยเหตุผลใดนั้น ควรรับฟังเอาไว้ โถ...ใครบ้างไม่อยากรู้ว่าเขาชอบเราเพราะอะไร? ว่าแต่ขอให้เขาชมอย่างจริงใจเถอะ ไม่ใช่ สักแต่อยากชมก็พูดไปอย่างงั้น แต่ใจจริง ไม่ได้คิดตามที่ปากพูดซะหน่อย แต่ที่ชมเพราะกลัวสาวจะไม่เล่นด้วยต่างหาก คงไม่ดีแฮะ แต่ได้รู้อย่างนึงนะ ว่าเขาเป็นคนปากหวาน ส่วนจะปากหวานก้นเปรี้ยวรึไม่? ก็ต้องเปิดทางให้เขาจีบก่อนสิ
ไทยรัฐ
เมอร์ลิน