Pages

Long Live The king

Long Live The king

April 27, 2012

น้ำเม็ดแมงลัก


น้ำเม็ดแมงลัก

E-Drink-Juice-2
ส่วนผสม
• เม็ดแมงลัก 15 กรัม (1 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำสะอาด 200 กรัม (14 ช้อนโต๊ะ)
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
วิธีทำ
1. เลือดเศษผงออกจากเม็ดแมงลักแล้วใส่ภาชนะที่ทนความร้อน
2. รินน้ำร้อนหรือน้ำเย็นใส่ในเม็ดแมงลักคนให้เข้ากัน
3. ปล่อยให้เม็ดแมงลักพองตัวออกจนมีลักษณะเป็นเมือกขาวใส ตรงกลางเม็ดเม็ดแมงลักมีสีดำๆ จึงเติมน้ำตาล
4. วิธีเสิร์ฟ ตักน้ำแข็งใส่แก้ว รินน้ำเม็ดแมงลักใส่แก้ว ตกแต่งให้สวยงาม เสิร์ฟได้ทันที
คุณค่าทางโภชนาการ
ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ให้พลังงาน แก้ท้องผูก ระบายท้อง ถ้าจะให้ได้ผลดีควรดื่มก่อนนอน
ขอขอบคุณ หนังสือ น้ำผัก น้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ
ขอขอบคุณ www.petsang.com


April 11, 2012

อะครีลิคซีลแลนท์ กะ อะครีลิคฟิลเลอร์

ใช้อะครีลิคซีลแลนท์ แทน อะครีลิคฟิลเลอร์ ได้รึป่าวครับ?vote   ติดต่อทีมงาน

คือจะโป้วผนังบ้านภายนอกที่มีรอยร้าวที่ปูนฉาบทั้งที่เล็กขนาดเส้นผม และกว้างๆ ตามกรอบหน้าต่าง ก่อนที่จะทาสีใหม่
ลองอ่านตามเว็บ เค้าบอกว่า  ถ้ารอยเล็กๆ ให้ใช้อะครีลิคฟิลเลอร์ ใหญ่ๆ ใช้ อะครีลิคซีลแลนท์

ซึ่งผมใช้ไม่เยอะ กระปุกขนาด 1/4 GL กระปุกเดียว ก้อน่าจะพอ
ที่นี้ถ้าจะซื้อทั้ง 2 แบบ ก้อเกรงว่าจะเหลือเก็บ
ผมสามารถใช้อะครีลิคซีลแลนท์ โป้วรอยร้าวเล็กๆ รอยแตกลายงา แทน อะครีลิคฟิลเลอร์ ได้หรือไม่ครับ
จะได้ซื้ออะครีลิคซีลแลนท์ แค่กระปุกเดียว

และตอนโป้วเนี่ย ต้องสกัดปูนหรือขัดสีตรงรอยร้าวออกรึป่าวครับ หรือว่าทำความสะอาดแล้วโป้วลงไปได้เลย


Ans1  อะครีลิคซีลแลนท์ ดีกว่า อะครีลิคฟิลเลอร์ อะครีลิคซีลแลนท์จะกลบรอยเล็กๆ ได้ดีกว่า ราคาสูงกว่า 



ถ้าจะใช้อะครีลิค ก็ทำความสะอาดผิวรอยแตก แล้วก็โป้วปิดรอยไปได้เลย
แต่ถ้าแผลใหญ่ๆ จะต้องสกัดเปิดแผล  จากนั้นก็ โป้วอุดด้วย วัสดุพวก wall putty
ขัดผิวให้เรียบแล้ว ทาสีทับหน้าก็เรียบร้อยครับ อครีลิคจะใช้กับงานที่แผลไม่ใหญ่มาก
สมบัติการให้ตัวสูง ยืดหยุ่นได้ดี ตอนใช้อะครีลิคยาแนวรอยแตกใหม่ๆ ควรทิ้งไว้ซัก 1-2 วัน
สังเกตุดีว่ามีการยุบตัวหรือไม่ ถ้ายุบตัวนิดหน่อยก็เติมให้เสมอผิวบน จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
ค่อยมาทาสีทับครับ สีจะได้ไม่ย่นตามแนว หรือเป็นสันคลื่น
เป็นแนวทางนะครับ ไม่ใช่กฎตายตัว ประยุกต์ตามความเหมาะสมแล้วกัน



แหล่งเที่ยวกินย่านตลาดน้อย บ้านคุณนายดวงตะวัน โปษยะจินดา

แหล่งเที่ยวกินย่านตลาดน้อย บ้านคุณนายดวงตะวัน โปษยะจินดา
บ้านคุณนายดวงตะวัน โปษยจินดาชื่อบ้านโซวเฮงไถ่ แถวนั้นเรียกว่าบ้านประตูแดง คุณนายทำ ข้าวต้มมัด , สาคูไส้หมู และขนมจีนซาวน้ำ อร่อยมาก ข้าวต้มมัด จำราคาไม่ได้ อันละไม่กี่บาท สาคูไส้หมูกล่องละ 30 บาท ขนมจีนซาวน้ำ ชุดละ 45 บาท น่าพักกลางวันหรือซื้อกลับบ้าน แต่ต้องสั่งล่วงหน้าที่ 0879272881 เพราะคุณนายไม่ได้ทำทุกวัน ทำตามสั่งเท่านั้น

นอกจากบ้าคุณนายดวงตะวันแล้ว ย่านนั้นอาหารอร่อยก็มากมายนะคะ เมื่อก่อนหัวมุมซอยใกล้ริเวอร์ซิตี้ มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอร่อยมาก ตอนนี้ย้ายไปที่อื่นแล้ว เพราะถูกไล่ที่ แต่ร้านเป็ดเจ้าท่ายังอยู่ มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด และอาหารตามสั่งอื่นๆ อร่อยค่ะ ร้านเขาดังมาก

เดินแถวนั้นอย่าลืมเข้าไปชมศาลกวนอู กับเรือขุดโบราณในกรมเจ้าท่านะคะ อย่าเดินผ่านโดยไม่ได้แวะเข้าไป แล้วจะมาเสียดายทีหลัง

ศาลเจ้าทั้ง ๒ ศาลนั้น ศาลแรกเป็นศาลแต้จิ๋ว ศาลที่ ๒ เป็นศาลฮกเกี้ยน เมื่อไม่นานมานี้ พระองค์ภาฯก็เพิ่งเสด็จไปนมัสการศาลนี้

วัดปทุมคงคามีประวัติเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการประหารชีวิตผู้สูงศักดิ์

ส่วนมัสยิดโกชาของหลวงโกชาอิศหาก ต้นสกุลสมันตรัฐ มีบ้านผู้ดูแลมัสยิดอยู่ในนั้น ถ้าจะขอเข้าไปดูข้างใน คงต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน ข้างหลังมัสยิดเป็นป่าช้ากลางกรุงเลยค่ะ แต่ร่มรื่นสวยงามบรรยากาศดี ทางเข้ามัสยิดเป็นตึกแถว ทั้ง ๒ ฝั่ง เป็นแหล่งสร้างรายได้ของมัสยิด ห้องแถวห้องหนึ่งมีเกาลัดเกล็ดหิมะ และไอศครีม น่าทานและน่าซื้อกลับเหมือนกัน



บางตอนจาก Facebook

April 03, 2012

ชีสเค้กฟักทอง สูตรอร่อย

Cake [ชีสเค้กฟักทอง]


การทำเค้ก สูตรทำเค้กฟักทอง
มาแล้วจ้าา สำหรับสาวๆ หรือ หนุ่มๆ ผู้ที่ชื่นชอบขนมและของหวาน วันนี้ทาง ชุมชนคนชอบกาแฟ ก็นำวิธีทำขนมง่ายๆ มาฝากกัน งานนี้ ทำทานเองก็อร่อย ทำให้คนอื่นทานก็ยิ่งดีใหญ่ ทำให้แฟนทาน อันนี้ไม่ต้องพูดถึง รับรองคุณแฟนต้องปลื้มคุณขึ้นไปอีกเป็นแน่แท้ (แต่ต้องที่แบบทานได้นา ถ้าทานไม่ได้ก็คงต้องว่ากันไปอีกกรณี หนึ่ง) ^_^

วันนี้ขอนำเสนอเมนูขนมหวาน น่าทาน ที่ทำจากฟักทอง โอ้โห …ได้ยินชื่อฟักทองแล้ว หลายคนต้องชอบแน่ๆเลย เพราะฟักทองเป็น พืชที่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งยังเป็นพืชสีเหลืองที่มีสารเบต้าแคโรทีนสู๊ง สูงอีกด้วย ซึ่งจัดว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง มีวิตามินเอ สูง ช่วยทำให้ นัยย์ของคุณสดใส แวววาวน่ารักอีกด้วย แถวไม่พอยังมีเส้นใยสูงช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี แหม่…คุณประโยชน์เยอะแบบนี้ โอเค กินฟักทองต้มกันเลยดีกว่า ไม่ต้องกินมันละ ค๊ง เค้ก …. เย้ย ไม่ใช่ยังงั้น T_T
เรามาดูส่วนผสมกันดีกว่า
การทำเค้กฟักทอง
ส่วนประกอบต่างๆ
1. ครีมชีส 200 กรัม
2. น้ำตาล 50 กรัม
3. ฟักทองต้ม 80 กรัม
4. โยเกิร์ตแบบรสธรรมดา150 กรัม
5. เจลลาตินแผ่น 5 แผ่น
6. เนื้อฟักทองต้มสุกชิ้นเล็ก สำหรับแต่งหน้า

วิธีการเตรียม
การทำเค้กฟักทอง
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมเจลลาตินแผ่น ให้นำเจลลาตินแผ่นมาแช่น้ำเย็นไว้ก่อน (ถ้าหาซื้อไม่ได้ ก็เอาชนิดผงก็ได้ แต่ชนิดผงก็ได้)
ขั้นตอนที่ 2 เตรียมฟักทอง นำมาต้มให้สุก เอาเปลือกออกให้เหลือแต่เนื้อ
ขั้นตอนที่ 3 ฟักทองที่ต้มสุกแล้วนำมาบดหรือคนๆให้ละเอียด เนียน (พักไว้อุณหภูมิห้อง)
การทำเค้กฟักทองขั้นตอนที่ 4 ใช้ครีมชีสของ Philadelphia หรือ ยี่ห้ออื่นก็ได้นำมาพักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1 ชั่วโมง (ถ้าไม่มี เอายี่ห้ออื่นได้มั้ย :: ได้จ้า)
ทำเค้กฟักทอง การทำเค้กขั้นตอนที่ 5 ตีครีมชีสให้ละเอียดนุ่ม พร้อมกับใส่น้ำตาลลงไป ตีรวมกันจนเข้าเนื้อ
การทำเค้กฟักทอง สูตรทำเค้กขั้นตอนที่ 6 นำฟักทองที่บดไว้ มาตีรวมกับครีมชีส ตีไปเรื่อยๆจนเป็นเนื้อเดียวกัน
การทำเค้กฟักทองขั้นตอนที่ 7 เทโยเกิร์ตผสมลงไป ใช้ไม้พายคนๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน3
การทำเค้กฟักทองขั้นตอนที่ 8 จากเจลลาตินแผ่นที่แช่น้ำไว้ตอนแรก นำมาละลายโดยอุ่นให้ละลายหรือเข้าไมโครเวฟซัก 10-15 วินาที (ถ้าไม่มีสามารถใช้แบบผงแทนได้)
ฟักทอง สูตรการทำเค้กขั้นตอนที่ 9 นำเจลลาตินที่ละลายแล้วผสมลงไปใน ครีสชีส ใช้ไม้พายคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
ชีสเค้ก ฟักทองขั้นตอนที่ 10 นำครีสชีสฟักทองที่ได้ มาใส่ในถ้วยเล็กๆหรือภาชนะที่ต้องการแล้วนำเข้าตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง
สูตรการทำ ชีสเค้กจากฟักทองขั้นตอนที่ 11 แต่งหน้าด้วยฟักทองชินเล็กๆเป็นอันเสร็จ จ้าาาา
เค้กฟักทองเพิ่มเติม :: สามารถนำครีสชีสฟักทองก่อนที่จะผสมเจลลาตินที่ได้มาราดหน้าพาย เค้กก็ได้ตามใจชอบ ก็อาจจะได้เป็น Pumpkin Cheese Pie หรือ เค้กเป็นต้น

เป็นยังไงบ้างน้า การทำชีสเค้กฟักทอง ไม่ยากเลยใช่มั้ย ดูท่าทางทำง่าย แต่ถ้าทำเองกินได้ไม่ได้นั่น อาจจะอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เป็นไรครับงานนี้ การทำอาหารก็ต้องฝึกกันไป เดี๋ยวก็เก่งเองทำไปชิมไป บางอย่างเราก็ไม่ต้องกังวนมากเช่น เครื่องปรุงต้องเป๊ะ นู้นนี่ต้องได้ บางทีก็กะๆเอา ก็อร่อยในสไตล์เรา

admin ก็ งงๆ  เหมือนกัน ที่เวลารายการทำอาหารเค้าบอกว่า ต้องใช้ไฟอ่อน ไฟกลาง ไฟแรงไรงี้ คือเตาที่บ้าน อาจจะไม่ไฮโซ บางทีเราก็ไม่รู้ เช่น ถ้าเป็นเตาที่เค้าใช้ทำผัดไทยหละ เปิดไฟที ไฟลุกซู่ ฉะนั้นก็เลยบอกว่า ไฟกลาง ไฟอ่อน ไฟแรง มันก็ต้องกะๆ เอากันไปซึ่งขึ้นอยู่กับอาหารที่เราทำอีกที คือถ้าทอดไข่ 1 ใบละไปทอดด้วยไฟแรงแบบที่เค้าทำผัดไทย อะไรงี้นะ ก็จะควันโขม่งกันไป T_T




April 02, 2012

ทำไงดีหากมีแฟนเป็นหนุ่มขี้หลี

ทำไงดีหากมีแฟนเป็นหนุ่มขี้หลี ? เคยสงสัยไหมว่า
ทำไมผู้หญิงบางคนถึงอยากไปทำศัลยกรรมเสริมทรวงอกกันเหลือเกิน?
มันมีผลต่อการสร้างแรงดึงดูดให้เพศตรงข้ามเข้าหาหรือไง?
จึงทำให้พวกเธอตัดสินใจพึ่งการทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อให้ตัวเองดูอึ๋มขึ้น
เนื่องจากเชื่อว่าการทำเช่นนี้ (มีหน้าอกบิ๊กไซส์) จะเป็นที่ต้องตา
ต้องใจของชายหนุ่ม

ซึ่งคำตอบน่าจะเดากันได้ว่า ก็แน่ละสิ ที่ผู้หญิงพยายามทำงานเก็บหอมรอมริบ
แถมยังยอมเจ็บตัวไปเสริมซิลิโคน บางทีก็ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจริงๆ
เพราะเชื่อว่าผู้ชายจะสังเกตสังกาและสะดุดตาผู้หญิงในแวบแรกก็ตรงหน้าอกของเธอนั่นแหละ
แต่ในกรณีของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว การไปเสริมหน้าอกเพราะอยากให้แฟนรัก
แฟนหลงมากกว่าเดิม หรือรำคาญที่ถูกแฟนหนุ่มพูดมากเรื่องที่เธอหน้าอกเล็กก็ได้
จึงเกิดแรงฮึด ยอมเสียสตางค์เสียเวลาไปทำศัลยกรรมให้เขาเลิกบ่น
และจะได้ป้องกันไม่ให้ฝ่ายชายหาข้ออ้างไปมีอีหนูด้วย

นอกจากนี้ ผู้หญิงบางคนยังยอมรับว่า การมีหน้าอกไม่เล็กเกินไป
จนไม่ถูกล้อว่าเป็นสาวอกไข่ดาว แต่มีขนาดที่พอเหมาะพอควรนั้น
ช่วยทำให้พวกเธอ...มีความสุขและมั่นใจมากขึ้น เพราะเชื่อว่าตัวเองสวย

“ความรู้สึกว่าสวยขึ้นยังแบ่งเป็น 2 ระดับด้วยนะ” คุณปู
สาวที่เข้าใจความรู้สึกของเพศเดียวกันให้ความเห็นต่อไปว่า “ผู้หญิงเนี่ยพารานอยด์
(ไม่สบายใจ) นะ ถ้าทรวงอกเธอเล็กเกินไป ดังนั้น
ถ้าเธออยากหน้าอกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมละก็
เชื่อได้ว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อเสริมความมั่นใจของตัวเพียงฝ่ายเดียว
แต่ทำเพื่อคนที่เธอรักด้วย เรียกว่าสวยเพื่อคุณ ผู้ชายของเธอก็ได้
เพราะพวกผู้ชายน่ะชอบอวดเรื่องแฟนว่าของใครสวยกว่ากันจะตาย”

บอกตามตรงการที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับหน้าอกหน้าใจ
ก็ไม่ต่างกับการที่ผู้ชายให้ความสำคัญกับอาวุธประจำกายของตัวเองนั่นแหละ
ขืนของใครสั้นและเล็กก็จะรู้สึกมีปมทางใจ และดิ้นรนอยากใหญ่เช่นกัน

ฉะนั้น ขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบางคน แต่ไม่ใช่ความสุขทั้งหมดของชีวิต
เนื่องจากหลายคู่ยอมรับว่า ความรักและความผูกพันต่างหากที่สำคัญกว่า
ส่วนสังขารนั้นคือความไม่เที่ยง

อย่าลืมว่า คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยกิริยาใช่ตาหวาน!

โอเคล่ะ เมื่อคนเราประสบพบเจอกันครั้งแรก ย่อมสนใจกันที่รูปร่างหน้าตาก่อนอย่างอื่น
แต่เวลาจะเลือกคบใครอย่างจริงจัง คงไม่คำนึงถึงหน้าตาอย่างเดียวแล้ว
แต่อยากศึกษาไปถึงจิตใจลึกๆลงไปกว่านั้นด้วย

ทีนี้ปัญหาน่ารำคาญใจ โดยเฉพาะผู้หญิงเวลามีแฟน มักพบว่าแฟนของตัวชอบมองคนอื่น
หรือชอบชมคนอื่นบ่อยๆน่ะสิ แต่พอถามขึ้นมา อู้ยเขางี้ ชอบปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง
ทั้งๆที่เห็นกันตำตาขนาดนั้น แต่ยังปากแข็งอยู่ได้ว่าไม่ใช่
หรือไม่ก็หัวเราะกลบเกลื่อนไปเลย

อันที่จริงหากผู้ชายมองผู้หญิงอื่นบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
ใครไม่อยากมองสาวอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า เซ็กซี่กว่าแฟนตัวเองล่ะ
แต่ชายก็มักขี้จุ๊

อยู่ได้ว่าไม่ได้มอง ไม่ได้ชม ไม่ได้สนกันทั้งปี

แบบนี้ถือว่าเป็นการโกหกซึ่งๆหน้า โอ้โห ขนาดแฟนสาวจับได้ไล่ทันก็ยังปฏิเสธอีก
ลักษณะนี้แหละที่ทำให้ผู้หญิงไม่ชอบ แถมสาวบางคนอาจคิดมากเตลิดไปไกลว่า แหม
เรื่องแค่นี้ก็ไม่ซื่อสัตย์กันซะแล้ว

แต่เอาน่ะ ฝ่ายหญิงที่มีแฟนเป็นเช่นนี้ก็อย่าคิดฟุ้งซ่านเกินไป และเชื่อว่า
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ถือสาหาความกับแฟนหนุ่มในกรณีนี้มากมายนัก
เพราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ขนาดที่ทำให้ต้องเลิกกันสักหน่อย
อย่างมากวิธีการลงโทษก็อาจผลักเขาแบบรู้ทัน ตบเขา (เบาๆ) หรืองอนใส่ ก็จบ
ด้านฝ่ายชายก็ควรตามไปหาวิธีง้องอนกันต่อ เพราะถ้าไม่ง้อจะยิ่งผิดสังเกต!

เอางี้ วิธีรับมือกับคำโกหกของผู้ชายที่ส่ออาการขี้หลีต่อหน้าแฟนสาวน่ะเหรอ
พวกไม่ยอมหยุดแจกขนมจีบทั้งที่มีแฟนแล้วนี่น่าตีจัง อย่างไรก็ตาม เห็นที
คุณสุภาพสตรีคงต้องพิจารณากันเป็นเคสๆไป เช่น... 1.ถ้าเขาแค่มีอาการหน้ามืดตามัว
ถูกกิเลสครอบงำเพียงชั่วคราว แล้วก็เพียงหันไปมองคนโน้นคนนี้
แบบให้ความสนใจเพียงแค่มอง ไม่ได้อยากเข้าไปรู้จักมักจี่
หรือถลาเข้าไปจีบสาวคนนั้นละก็ ปล่อยเขาไปเถอะ
บอกแล้วไงว่าอย่างมากก็ทำเป็นงอนเขาก็แล้วกัน
อย่าไปเก็บมาเป็นอารมณ์ให้ขุ่นเคืองใจจนเกินไป เดี๋ยวไม่สวยนะจะบอกให้

2.ถ้าเขาเอ่ยปากชมผู้หญิงอื่นที่สวยกว่า อึ๋มกว่า
และทรวดทรงองค์เอวดีกว่าก็ลองท้าเขาสิว่า ถ้าชอบก็ไปจีบหล่อนสิ...
ว้าย...แต่แค่พูดเล่นนะ ไม่ได้แนะให้ไปท้าจริง
แต่ถ้าใครจะทำจริงก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนงั้นถ้าเขาชมผู้หญิงอื่นได้
คุณก็ลองชมผู้ชายคนอื่นที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าเขาดูบ้างสิ ดูดิ เขาจะคิดอย่างไร?
งอนคุณ หรือไม่พอใจคุณไหม? หากเขาเป็น ก็อธิบายให้เขาฟังแล้วกันว่า
คุณก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วค่อยๆคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ
อย่าได้ถือคติยอมหักไม่ยอมงอเชียวนะ โถเรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย

3. หากเขาแสดงความสนใจในตัวผู้หญิงคนอื่น ชนิดอยากจีบเธอคนนั้นอย่างจริงจัง
แต่ยังทำเป็นไม่กล้า
หรือกลบเกลื่อนด้วยการเฉไฉละก็เชื่อว่าผู้หญิงที่มีแฟนแล้วทุกคนมีสัญชาตญาณที่ประเมินได้ด้วยตัวเองทั้งนั้นนะว่า
แฟนของคุณกู่ไม่กลับและถลำลึกไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว
เนื่องจากพวกเจ้าชู้มักเก็บอาการนี้ไม่ค่อยมิด จะมีแววตา, มีคำพูด,
มีอากัปกิริยาให้จับได้ไล่ทัน ซึ่งหากสาวใดรับได้กับความเจ้าชู้ของเขาก็แล้วไป
ตรงข้ามถ้ารับไม่ได้ เพราะส่อแววว่าเขาพยายามจีบเพื่อนของคุณ
ไอ้หยาขืนมักง่ายอยากได้มาก อุ๊ยต๊ายตาย แล้วฝ่ายหญิงจะทนไหวอีกหรือ?

เมอร์ลินไทยรัฐออนไลน์
  โดย เมอร์ลิน
  1 เมษายน 2555, 05:00 น.